ประกันรถมอเตอร์ไซค์
บิ๊กไบค์ จากบริษัทประกันชั้นนำ

Big bike (บิ๊กไบค์) เป็นชื่อเรียกของรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องของเฟรม ตัวเครื่องยนต์ ล้อ และยางรถ ล้วนต้องมีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพสูงกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่ว ๆ ไป โดยตัวเครื่องยนต์ของบิ๊กไบค์นั้นจะมีตั้งแต่ 250 ซีซี ขึ้นไป และสูงสุดจนถึง 2,400 ซีซี ด้วยเหตุนี้ ลักษณะการใช้งานของ Big bike ก็จะแตกต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ ดังนั้น ความคุ้มครองจากประกันมอเตอร์ไซค์แบบธรรมดา อาจยังไม่ครอบคลุมมากพอ จึงมีอีกรูปแบบของการประกันภัยออกมาเพื่อตอบโจทย์ นั่นก็คือประกันบิ๊กไบค์ นั่นเอง

หลายคนอาจยังสงสัยว่า ประกันภัยทั้งสองรูปแบบนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไร?

ถ้ามองในเรื่องขอบเขตความคุ้มครอง ก็มีความใกล้เคียงกันมาก ๆ แต่จะต่างในเรื่องของวงเงินคุ้มครองและเบี้ยประกันภัย เพราะรถบิ๊กไบค์นั้นเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ สมรรถนะการขับขี่สูง กล่าวคือเป็นรถที่ต้องใช้ความเร็ว แรง ในการขับเคลื่อน จึงมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เมื่อเกิดอุบัติเหตุจึงมีความรุนแรงมากกว่า และก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่า ด้วยเหตุนี้ ประกันบิ๊กไบค์จึงต้องเพิ่มการดูแลในส่วนของค่ารักษาพยาบาล วงเงินชดเชยกรณีเกิดความเสียหาย และวงเงินค่าซ่อมแซมรถที่มีค่าใช้จ่ายสูง จึงมีการเรียกเก็บเบี้ยประกันที่สูงกว่านั่นเอง

ประกันรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ (Big bike) นั้นเรียกได้ว่าเป็นมากกว่ายานพาหนะ เพราะมันสามารถบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ และตัวตนของผู้ขับขี่ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ชนิดนี้ ก็มีการออกแบบมาหลายรูปทรง เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและยังเป็นการบ่งบอกสไตล์ของผู้ขับขี่แต่ละคน โดยแบ่งเป็น 4 ประเภทดังต่อไปนี้

• แบบ Sport bike เป็นรถ Big bike สไตล์สปอร์ตทั้งรูปลักษณ์ภายนอกที่แข็งแกร่ง และภายในกับเครื่องยนต์ที่มีความแรงอยู่ในระดับสูง ขับขี่ได้อย่างคล่องตัว
   
• แบบ Naked bike รถ Big bike ที่ผสานเอาดีไซน์สตรีทและสปอร์ตเอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยรูปลักษณ์ของรถประเภทนี้คือการเผยให้เห็นโครงสร้างภายในตัวเครื่องได้แบบชัด ๆ สมชื่อ Naked ที่แปลว่า เปลือย นั่นเอง
   
• แบบ Touring bike รถ Big bike ที่เหมาะสำหรับการขับขี่ในระยะไกล มีการดีไซน์ให้องค์ประกอบต่าง ๆ เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ทั้งเบาะนั่งขนาดใหญ่ นั่งสบาย และช่องเก็บของเอนกประสงค์ เครื่องยนต์ที่ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลกว่าประเภทอื่น ๆ
   
• แบบ Chopper bike หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “ช็อปเปอร์” ดีไซน์สวยและเงางาม จุดเด่นคือช่วงแฮนด์บาร์ที่สูงและเป็นเอกลักษณ์ เป็นรถ Big bike ที่มีความคลาสสิกมาก ๆ อีกประเภทหนึ่งเลย

อย่างที่ผู้ขับขี่ทุกท่านทราบกันดีว่า ในการขับขี่ยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ สิ่งที่สำคัญก็คือผู้ขับขี่ต้องทำประกันภัยภาคบังคับหรือ พ.ร.บ. เอาไว้ทุกครั้งเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. ที่จะช่วยรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น แต่ความคุ้มครองจากประกันภัย พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ เพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถครอบคลุมความเสี่ยงทั้งหมดได้ อีกทั้งรถ Big bike ยังเป็นรถที่มีอะไหล่ที่ราคาสูง และต้องการค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่มากกว่าวงเงินคุ้มครองที่ พ.ร.บ. ให้มา

ด้วยเหตุนี้ การทำประกันภัยบิ๊กไบค์ จึงเป็นอีกสิ่งสำคัญที่เหล่านักบิดควรทำเพื่อเป็นตัวช่วยในการรองรับความเสี่ยงเหตุไม่คาดฝัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อดูแลรถบิ๊กไบค์และนักขับไปอีกทางหนึ่งนั่นเอง โดยสามารถเลือกขอบเขตความคุ้มครองตามประเภทของประกันภัยรถบิ๊กไบค์ได้ดังต่อไปนี้

• ประกันรถบิ๊กไบค์ชั้น 1 คุ้มครองทั้งคู่กรณีและรถมอเตอร์ไซค์ของผู้เอาประกันเอง ไม่ว่าจะเป็นค่าเสียหายต่อรถยนต์ ค่ารักษาพยาบาล และรวมไปถึงกรณีไฟไหม้ และกรณีรถสูญหายด้วย
   
• ประกันรถบิ๊กไบค์ชั้น 2+ ประกันภัยที่จะมอบความคุ้มครองบุคคลภายนอก และคุ้มครองความเสียหายต่อรถจักรยานยนต์ที่มีประกันภัยนี้ โดยบริษัทประกันภัยจะให้ความคุ้มครองเฉพาะกรณีที่เฉี่ยวชนกับยานพาหนะทางบก จนเกิดความเสียหาย
   
• ประกันรถบิ๊กไบค์ชั้น 2 คุ้มครองค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณีเท่านั้น ในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ของผู้เอาประกันเองจะได้รับความคุ้มครองแค่ในกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้
   
• ประกันรถบิ๊กไบค์ ชั้น 3+ ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถ ทั้งรถบิ๊กไบค์ของผู้เอาประกัน และคู่กรณี แต่คุ้มครองในกรณีที่ชนรถแบบมีคู่กรณี ไม่คุ้มครองกรณีชนกำแพง, ต้นไม้ หรือสาเหตุอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้
   
• ประกันรถบิ๊กไบค์ชั้น 3 คุ้มครองค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณีเท่านั้น ในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ของผู้เอาประกันเองจะไม่ได้รับความคุ้มครองใด ๆ หมายความว่าค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ค่ารักษาพยาบาล หรือกรณีรถหาย ไฟไหม้ ผู้เอาประกันจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายเอง

เพราะการขับขี่ Big bike นั้นเรียกได้ว่าอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงหลากหลายรูปแบบ ผู้ที่สามารถใช้งาน Big bike ได้นั้นจึงต้องมีความชำนาญในการบังคับรถ และต้องใช้สมาธิในการขับขี่ค่อนข้างสูง ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่เร็วและแรงกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ขนาดของตัวเครื่องที่ใหญ่และมีน้ำหนักมากกว่า หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็จะสร้างความเสียหายมากกว่า ดังนั้น การมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมจากประกันภัยบิ๊กไบค์ติดตัวเอาไว้จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น

โดยประกันบิ๊กไบค์หรือประกันรถจักรยานยนต์ตามประเภทแต่ละประเภท ย่อมมีเงื่อนไขและให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

• ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 1

เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด โดยจะให้ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยและคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ  คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการเชี่ยวชนหรือล้ม  นอกจากนี้ยังรับผิดชอบกรณีไฟไหม้และรถสูญหายอีกด้ว แต่ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ย่อมแลกมาด้วยเงื่อนไขอยู่พอสมควร โดยมีการกำหนดให้รถที่ทำประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 ต้องมีอายุไม่เกิน 5 ปี และมีขนาด 250 cc ขึ้นไป เท่านั้น
 

• ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+

เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองรองมาจากประกันชั้น 1 โดยให้ความคุ้มครองชีิวตและทรัพย์สินของผู้เอาประกันและคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ คุ้มครองกรณีไฟไหม้และรถสูญหาย แต่จะไม่ให้ความคุ้มครองเมื่อรถเฉี่ยวชนหรือล้มโดยไม่มีคู่กรณี ซึ่งการทำประกันชั้น 2+ ไม่ได้กำหนดขนาด cc เหมือนประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 แต่ยังคงกำหนดอายุไว้ที่ ไม่เกิน 5 ปี
 

• ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 3+

ให้ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกันและคู่กรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยมีเงื่อนไขการทำประกันว่าต้องเป็นรถที่มีอายุ ไม่เกิน 6 ปี
 

• ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 3

เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองน้อยที่สุด โดยจะให้ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น แต่มีข้อดีตรงที่ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ในการทำประกันเลย

เราจะเห็นว่าประกันรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม แถมยังมีให้เลือกทำหลากหลายประเภทอีกต่างหาก เพียงเลือกทำให้เหมาะสมกับการใช้งานและความเสี่ยงของเรา ก็ไม่ต้องเป็นกังวลกับสารพัดปัญหาบิ๊กไบค์อีกต่อไปแล้ว

โดยปกติกรมธรรม์ประกันภัยจะมีเบอร์ติดต่อ Hotline ของบริษัทประกันภัย ระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งคุณในฐานะลูกค้าสามารถติดต่อได้ทุกวัน ทุกเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือได้เลย ขอเพียงแต่เหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้น ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขหรือบริการที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยด้วย

มี  แต่ต้องเป็นประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 เท่านั้น
 

หากเป็น ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ หรือ ประกันมอเตอร์ไซค์ชั้น 3+ จะให้ความคุ้มครองก็ต่อเมื่อเกิดร่องรอยจากการเฉี่ยวชนโดยมีคู่กรณีเท่านั้น หากรู้ตัวว่าเป็นคนซุ่มซ่ามหรือชอบเอารถไปล้มอยู่บ่อย ๆ เราขอแนะนำประกันชั้น 1 เลย