เสียได้ก็ซ่อมได้ กับวิธีแก้ไขอารมณ์บูดง่ายๆ ภายใน 5 นาที!

ในชีวิตประจำวัน มันดูยากนักที่จะหลีกเลี่ยงสภาวะที่ไม่เป็นไปได้ดั่งใจ มีเรื่องที่ไม่โอเคที่พร้อมประดังเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีนัยสำคัญ แน่นอนว่าการปรับสภาพจิตใจให้กลับมาคงที่ หรือการแก้ ‘อารมณ์บูด’ คือสิ่งที่พึงกระทำ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าที่จะทำได้ กับแนวทางที่น่าสนใจที่จะช่วยให้คุณจบของเสียในจิตใจได้ภายใน 5 นาที
ระบายใส่บันทึก
การเขียนคือสิ่งที่ช่วยเยียวยาสภาวะจิตใจได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ คือวิธีการที่ควรทำ ลองหาสมุดบันทึกดีๆ สักเล่ม ปากกาดีๆ สักด้าม แล้วสาดทุกสิ่งลงไปในนั้น คุณจะแปลกใจ ว่าทุกสิ่งสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าฉงน (หมายเหตุ: ควรเก็บสมุดบันทึกที่ว่าไว้ในที่ลับสุดยอดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และเราไม่แนะนำให้คุณระบายทุกสิ่งลงหน้า Social Media เพราะมันก็ไม่ต่างอะไรกับการเดินออกไปตะโกนหน้าบ้านหรอก…)
คิดถึงช่วงเวลาที่ดีๆ
สภาวะอารมณ์บูดคือช่วงเวลาที่จิตใจตกลงสู่ห้วงลบ อย่างหนักหน่วง อย่างยิ่งยวด คุณควรรู้ตัวและนึกถึงช่วงเวลาที่ดีๆ ความสำเร็จที่เคยทำได้ ฉากจากหนังที่ประทับใจ แม้จะเป็นเพียงเล็กน้อย แต่การคั่นจังหวะอารมณ์ด้านลบด้วยประสบการณ์ทางบวกนั้น สามารถช่วยคลี่คลายสถานการณ์ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สัมผัสธรรมชาติ
เหตุผลของการกำเนิดอารมณ์ด้านลบ เกิดจากการอยู่กับตัวเองที่มากเกินพอดี ซึ่งคุณควรจะให้ตัวเองได้มีโอกาสสัมผัสกับธรรมชาติ สายลม แสงแดด ออกเรี่ยวแรงสักนิด ให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของบริบทแวดล้อม เหล่านี้ จะช่วยให้คุณลดการอยู่กับตัวเอง และเปิดใจรับกับสิ่งใหม่รอบตัวได้ดียิ่งขึ้น
หาสิ่งใหม่ๆ ทำ เพิ่มแรงบันดาลใจ
การทำสิ่งซ้ำๆ คือเหตุผลหลักของการดิ่งสู่อารมณ์ด้านลบ การพาตัวเองไปสู่สถานการณ์ใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ หรือกิจกรรมใหม่ๆ จะช่วยคลายความคับข้องใจ และเปิดมุมมองกับโอกาสดีๆ ใหม่ๆ ที่จะเข้ามา
ทำสิ่งดีๆ ที่สร้างสรรค์ และเผื่อแผ่ให้กับคนทั่วไป
อารมณ์บูดเกิดจากหลายสาเหตุ แต่โดยหลักแล้ว มักจะมาจากความรู้สึกที่ตนเองไร้คุณค่า ไม่เป็นที่ต้องการ ขัดแย้งกับภาพที่อยู่ภายในจิตใจของตนเอง เช่นนั้นแล้ว ทำไมไม่ลองออกไปช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งใด ไม่ต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ขอแค่เพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มันจะช่วยเติมพลังใจของคุณได้อย่างน่าอัศจรรย์
อารมณ์ด้านลบ เป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ เราไม่สนับสนุนให้คุณเก็บมันไว้ แต่ก็ไม่คิดว่าการปลดปล่อยอย่างไร้การควบคุมจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ากัน ใช้ความเข้าใจ เรียนรู้ และผ่อนหนักเป็นเบา จะส่งผลดีต่อสภาพร่างกายและจิตใจของคุณได้ในระยะยาว