ในประเทศไทยของเราว่ากันว่ามีด้วยกันสามสฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว ที่จะเกิดขึ้นกันตามลำดับ แต่ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างบ้าคลั่ง เดี๋ยวฝนตกในหน้าหนาว หรือไม่ก็อากาศร้อนจัดในหน้าหนาว เรียกได้ว่าฝนตกแดดออกไม่ตรงตามฤดูกาล กลายเป็นว่าประเทศไทยมีแต่ฤดูร้อน ฤดูร้อนมาก และฤดูร้อนที่สุด
ถึงอากาศร้อนจะแผดเผาประเทศไทยอย่างไม่ใยดี ใช่ว่าเชื้อโรคต่างๆ จะหมดไป เพราะว่าเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย ยังมีพาหะนำโรคคอยขนส่งเชื้ออยู่ ทำให้คนที่ละเลยต้องพบเจอกับอาการท้องเสียเอย โรคตาแดงเอย โรคระบบทางเดินอาหาร โรคภูมิแพ้ หรือร้ายที่สุดคือโรคไข้เลือดออก (เอาเป็นว่าโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อนั่นแหละ) ก็เพราะยังมีพาหะอย่างแมลงร้ายที่แฝงตัวอยู่ใกล้ๆ ไม่ไปไหน
พาหะนำโรคไม่ใกล้ไม่ไกล
สถานที่อันอบอุ่นอย่างบ้านจะไม่สงบทันทีถ้ามีพาหะนำโรคแฝงตัวอยู่ และคอยปล่อยเชื้อโรคหรือแบคทีเรียทำร้ายคนในบ้าน หรือคิดแค่ว่าเป็นโรคไม่ติดต่อที่ไม่น่ากลัวมากนัก หลายคนมองข้ามสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคในบ้านไปอย่างเฉยเมย โดยที่ไม่รู้เลยว่าความเฉยเมยคือภัยในบ้านที่อันตรายไม่แพ้กัน
สาเหตุที่พาหะนำโรคยังวนเวียนอยู่ในบ้าน
แรกเริมเดิมทีมนุษย์เองก็อาศัยอยู่ในป่าเขาหรือตามริมแม่น้ำ ใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ เมื่อเริ่มรู้จักสร้างบ้านเรือน หรือมีบ้านเป็นของตัวเอง ก็ลืมไปว่าสถานที่ตรงนั้นย่อมมีเจ้าของมาก่อน บ้านหลังนั้นก็ถูกรุกรานไปโดยปริยาย
อย่างแมลงสาบและแมลงวันที่คอยรบกวนชีวิตของคนในบ้าน เพราะบ้านมีพื้นที่ซอกหลืบให้หลบอาศัย มีมุมมืดที่แสงสว่างส่องไม่ถึง หรือเศษอาหารตกหล่น ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้สัตว์รุกรานไม่หนีไปไหน และแพร่เชื้อสร้างโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อให้วุ่นวาย
แมลง 2 ชนิดภัยร้ายใกล้ตัว
สิ่งมีชีวิต 2 ชนิดที่จะนำเสนอต่อไปนี้ ล้วนแฝงตัวอยู่ในบ้านของเราไม่เคยไปไหน อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเคยพบเห็นกันบ่อยๆ เริ่มกันที่..
แมลงสาบ
แมลงสาบ หรือ เจ้าปีเตอร์ที่ถูกเรียกให้น่ารักมากยิ่งขึ้น บ้างก็ชอบทำตัวน่ารักโดยการสยายปีกบินราวกับตัวเองเป็นหนอนผีเสื้อ ซึ่งแมลงสาบที่หลายคนต่างขยะแขยงเพราะสกปรก เป็นพาหะนำโรคที่หากินตามพื้นดินเป็นหลัก มีความสามารถวิ่งเร็ว บทจะบินก็บินเอาดื้อๆ แถมบินเข้าหาตัวมนุษย์อีกต่างหาก (ทำไมแกไม่บินไปที่อื่น!)
แมลงสาบเกิดมาบนโลกมาหลายร้อยปีแล้ว และมีชีวิตคงกะพัน ตายยาก (ถึงจะกระทืบไปแรงแค่ไหนก็ยังวิ่งต่อไปได้) สืบลูกหลานออกมาไม่มีที่สิ้นสุด แถมยังปรับตัวได้ทุกสภาพแวดล้อม ชอบอาศัยในเขตมืองร้อน ที่มืด ที่อับชื้น หรือห้องครัว ถ้าเจอแมลงสาบในห้องครัวเตรียมใจไว้เลยว่ามีกองทัพนับสิบตัวซุกซ่อนอยู่
แมลงสาบเกิดมาบนโลกหลายรอยปีแล้ว และตายยากมากๆ (ถึงกระทืบไปก็ยังวิ่งต่อ) สืบลูกหลายออกมาได้เรื่อยๆ แถมยังปรับตัวได้ทุกสภาพแวดล้อม ชอบอาศัยในเขตเมืองร้อน ทำตัวหลบซ่อนในที่มืด อับชื้น ถ้าเจอแมลงสาบในห้องครัวเตรียมใจไว้เลยว่ามีกองทัพนับสิบตัวซุกซ่อนอยู่
-
โรคที่ตามมากับแมลงสาบ
แมลงสาบเรียกได้ว่าเป็นตัวการในการปล่อยเชื้อโรค มันมักอาศัยอยู่ตามขยะ ของเน่าเสีย แมลงสาบจึงเป็นพาหะนำโรคมาสู่มนุษย์ แทบทั้งร่างกายของแมลงสาบมีเชื้อโรคปะปนอยู่ไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งขี้ของมันเอง มีทั้งแบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว พยาธิ และเชื้อรา เชื้อเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดโรคท้องเดิน โรคบิด ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค อาหารเป็นพิษ โรคผิวหนังพุพอง เป็นต้น และสิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือ เชื้อเหล่านี้มีอายุอยู่ได้ถึง 3 ปี
-
วิธีกำจัดแมลงสาบ
แมลงสาบเป็นพาหะนำโรคที่ปรับตัวให้เข้ากับทุกๆ สภาพแวดล้อมได้ดี พวกมันจึงมีชีวิตรอดมาได้ง่ายๆ ถึงแม้จะฉีดยาฆ่าแมลงสาบไปให้ตายเพื่อป้องกันโรคติดต่อและไม่ติดต่อที่มีต้นเหตุมาจากมัน แต่สักพักพอปรับตัวได้ก็จะฟื้นคืนชีพ
ดังนั้น เราจึงมีหน้าที่คือ
- เก็บอาหารทุกอย่างไว้ในตู้กับข้าว หรือในตู้เย็น ให้มิดชิด
- ปิดปากถุงขยะให้มิดชิด เพื่อกำจัดแหล่งที่อยู่ของแมลงสาบ
- รู้จักทำความสะอาดบ้าน ไม่ให้รก หรือมีเศษขยะหล่นทิ้งไว้ เพื่อที่จะได้ไม่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงสาบ
- ยาฆ่าแมลงบางทีก็อาจไม่ได้ผล แถมยังจะสร้างอาการระคายเคืองให้แก่คนในบ้านที่เป็นภูมิแพ้ ลองเปลี่ยนมาใช้ก้อนยาที่วางล่อแมลงสาบให้มากิน หรือใช้กาวดักแมลงสาบ
แมลงวัน
อีกหนึ่งพาหนะนำโรคชนิดหนึ่งที่สร้างความรำคาญให้เรา เนื่องจากมันจะบินเสียงดังหวี่ๆ ข้างหู ซ้ำยังตอมทั้งคน ตอมสัตว์เลี้ยง ตอมซากสัตว์ที่ตายไปแล้ว และอาหารที่เรากำลังจะกลืนลงท้อง แมลงวันสร้างความรำคาญไม่พอ ยังมีอีกหนึ่งหน้าที่คือเป็นพาหะนำโรคหลายชนิดสู่คน และแมลงวันที่สามารถพบได้ในประเทศไทยมีด้วยกัน 4 ชนิด ดังนี้
- แมลงวันบ้าน
- แมลงวันหัวเขียว
- แมลงวันหลังหลาย
- แมลงวันดูดเลือด
ไม่ว่าจะแมลงวันชนิดไหนล้วนเป็นพาหนะที่ทำให้เกิดโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อได้ด้วย โดย แมลงวันหัวเขียวจะมีอิทธิฤทธิ์ในการนำโรคได้ดีที่สุด
-
โรคที่ตามมากับแมลงวัน
เคยเห็นแมลงวันตอมขยะมูลฝอย เศษอาหาร ซากสัตว์ที่ตายแล้ว หรืออุจจาระบ้างหรือเปล่า รู้ไหมว่าสิ่งเหล่านั้นคือของที่แมลงวันโปรดปรานมากๆ ซึ่งอาหารที่ว่ามีเชื้อโรคหรือพยาธิปะปนอยู่ เวลาที่แมลงวันไปตอม เชื้อโรคเหล่านั้นจะติดมากับขนที่ขาด้วย พอแมลงวันมาตอมอาหารของเรา
เมื่อแมลงวันกินอิ่ม นิสัยของมันคือจะถูขาที่เต็มไปด้วยเชื้อโรค ทีนี้แหละอาหารของเราก็ถูกผสมไปด้วยเชื้อโรคที่มาจากแมลงวัน ใครกินอาหารที่ถูกตอมเข้าไปก็จะได้รับเชื้อโรค แล้วเชื้อโรคก็แพร่การจายไปทั่วร่างกาย ทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น โรคไทฟอยด์ อุจจาระร่วง โรคตาแดง ริดสีดวงตา วัณโรค พยาธิต่างๆ หรืออาหารเป็นพิษ
-
วิธีกำจัดแมลงวัน
เมื่อดูดีๆ แล้วทั้งแมลงสาบและแมลงวันต่างก็มีลักษณะคล้ายๆ กันคือชอบกินเศษอาหาร หรือชอบอะไรที่มันหมักหมม ดังนั้น แนวทางในการกำจัดแมลงวันก็จะเหมือนกับแมลงสาบคือ
- กำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลภายในบ้าน อย่างถังขยะอย่างให้รั่วซึม
- รู้จักติดตั้งมุ้งลวดทั้งประตู และหน้าต่างเพื่อไม่ให้มีแมลงเล็ดลอดเข้ามา
นอกเหนือจากนี้ ยังมีวิธีกำจัดแมลงวันง่ายๆ คือ
- น้ำส้มสายชู ยิ่งถ้าเป็นร้านอาหารน่าจะเข้าทางกันคือ ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดรอบๆถาด หรือภาชนะที่บรรจุอาหาร แมลงวันจะไม่ตอม เพราะแมลงวันไม่ชอบน้ำส้มสายชู
- ตะไคร้หอม นอกจากจะไล่ยุงได้แล้ว ยังไล่แมลงวันได้ด้วย เพียงใช้เตาเผาเล็กๆ แล้วเทตะไคร้ลงไป รอให้ควันส่งกลิ่นฉุน แมลงวันก็จะไม่กล้าเข้าใกล้
หลายคนทำงานหามรุ่งหามค่ำ เลยไม่มีเวลาทำความสะอาดบ้าน ทิ้งเศษซากอาหารไว้ที่อ่างล้างจาน หรือไม่ได้มองหา ตัวช่วยในการทำความสะอาดบ้าน เป็นสัญญาณบอกว่าพาหะนำโรคกำลังทำงาน เมื่อไม่รีบกำจัดออกไป คนในครอบครัวอาจได้รับเชื้อโรคจากสัตว์เหล่านี้
และเมื่อเชื้อโรคสำแดงฤทธิ์เดชออกมา ความโกลาหลเกิดขึ้นในครอบครัวแน่นอน ต้องพากันส่งโรงพยาบาลหรือหาหยูกยามาบรรเทา แน่นอนว่าการรักษาต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง แต่จะหมดห่วงไปได้หลายเปราะ หากเรามี ประกันสุขภาพ ที่สามารถช่วยเซพทั้งชีวิต และเงินในกระเป๋าของเราได้อย่างดีที่สุด