การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดี เมื่อเราขยับร่างกายหมายความว่าทั้งหัวใจและกล้ามเนื้อกำลังทำงานไปพร้อมๆ กัน การออกกำลังกายเลยส่งผลให้ร่างกายมีความแข็งแรงมากขึ้น หนีไกลจากโรคร้ายๆ อย่างโรคหัวใจ สร้างภูมิคุ้มกัน แถมสมองก็ไดรับประโยชน์จากการออกกำลังกาย จิตใจก็ได้อนิสงฆ์ไปเต็ม
กิจกรรมนี้จึคงเป็นที่นิยมชมชอบขึ้นเรื่อยๆ บางคนชอบกินแต่ก็อยากให้รูปร่างดี เลยออกกำลังกาย แต่บางคนก็อยากให้ร่างกายแข็งแรงกว่าเดิม แต่นอกเหนือจากความหวังที่ว่านั้น การขยับร่างายยังมีประโยชน์อื่นๆ ซ่อนอยู่เต็มไปหมด แต่จะมีอะไรบ้างนั้น มาสืบเสาะค้นหาไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า
การออกกำลังกายส่งผลต่อระบบของร่างกาย
หากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และไม่หักโหมจนเกินพอดี ระบบร่างกายที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อาทิ ระบบการเคลื่อนไหว ระบบการหายใจ ระบบการไหลเวียนเลือด เป็นต้น
ระบบการเคลื่อนไหว
- กระดูก
เมื่อออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอกระดูกจะมีความหนาและแข็งขึ้น
- ข้อต่อ
เมื่อข้อต่อแข็งแรงมากขึ้นความสามารถในการเคลื่อนไหวจะไปได้เต็มกำลัง
- กล้ามเนื้อ
เมื่อเอ็นของกล้ามเนื้อมีความแข็งแรงขึ้นและยืดหยุ่นได้มาก จึงลดแรงที่มากระทบต่อกล้ามเนื้อได้ทันที ซึ่งเป็นการลดอันตรายที่จะเกิดแก่กล้ามเนื้อ
ระบบการหายใจ
การออกกำลังกายทำให้ระบบหายใจดีขึ้น โดยกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจคือ กล้ามเนื้อระหว่างช่องซี่โครง และกล้ามเนื้อกระบังลม สองกล้ามเนื้อนี้จะแข็งแรงขึ้น
ปอดมีขนาดใหญ่ขึ้น มีเลือดไปหล่อเลี้ยงมากขึ้น
ระบบการไหลเวียนเลือด
- หัวใจ
การออกกำลังกายใดใดก็ตามที่ต้องใช้ความอดทน หัวใจจะมีปริมาตรมากขึ้น กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น การสูบฉีดเลือดของหัวใจก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
- หลอดเลือด
มีการกระจายของหลอดเลือดฝอยในกล้ามเนื้อ และอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังมากขึ้น
- เลือด
ปริมาตรเพิ่มขึ้น มีสารสำหรับจับออกซิเจนเพิ่มขึ้น สารเคมีบางตัวในเลือดลดต่ำลงเช่น ไขมัน
การออกกำลังกายช่วยบำรุงสมอง
เมื่อยามแก่ตัวลงการเกิดของเซลล์สมองจะช้าลง เนื้อเยื่อในสมองจะค่อยๆ หดลง แต่การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นให้เซลล์เหล่านี้ผลิตออกมาอีกครั้ง แถมยังช่วยเพิ่มขนาดสมองส่วนกลางที่มีผลต่อการมองเห็นและการได้ยิน ซึ่งเชื่อมต่อกับหน่วยความจำและการเรียนรู้
นอกจากนี้ การหมั่นออกกำลังกายอยู่บ่อยๆ จะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์สมองให้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ นอกเหนือสุขภาพที่ดีและแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์ขึ้น
เพราะเมื่อออกกำลังกาย ความเครียดจะรีบหนีไปโดยเร็ว เมื่อหัวโล่งปลอดโปร่งความคิดดีๆ จะตามมาอีกมากมาย เพราะกิจกรรมนี้ไปพัฒนาสมองซีกขวา ที่เป็นซีกในด้านความคิดและจินตนาการ ดีไม่ดีออกกำลังกายอยู่ดีๆ อาจจะมีความคิดดีๆ เรื่องงานแวบเข้ามาในหัวก็ได้
การออกกำลังกายช่วยบำบัดความเครียด
ความเครียด ความโศกเศร้า ความหดหู่ เป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่ได้และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุุกคน แถมยังส่งผลให้สมองทำงานช้าลง (เพราะมัวแต่จดจ่อกับสิ่งนั้นจนสมองอ่อนล้า ขาดสมาธิในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ)
แต่อย่าลืมว่าการออกกำลังกายจะช่วยบำบัดสิ่งเหล่านี้เอง โดยสารโดปามีนจะหลั่งออกมายามที่รู้สึกว่าชีวิตได้รับการตอบสนองความต้องการ สารซีโรโทนินจะหลั่งยามที่รู้สึกผ่อนคลายและมีความสงบสุข และสารเอนดอร์ฟิน หรือสารแห่งความสุขจะหลั่งออกมายามที่อารมณ์ดี
ดังนั้น เมื่อเราออกกำลังกายสารเอนดอร์ฟินจะหลั่งออกมาเพราะไม่มีเวลามาคิดถึงเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ในตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องงาน เรื่องเจ้านาย หรือเรื่องอื่นๆ ที่คั่งค้างคาใจ ส่งผลให้รู้สึกผ่อนคลายความกังวลนั่นเอง
นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังเสริมสร้างสมาธิได้อีกด้วยหากเลือกสถานที่ที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว (ไม่ใช่ในป่านะ) สีเขียวและสงบ ไม่แออัดไปด้วยผู้คน อย่างเช่นสวนหย่อม เพราะในระหว่างที่จดจ่อกับการออกกำลังกายจิตใจจะไม่ฟุ้งซ่านเพราะความสงบเป็นบรรยากาศในการฝึกสมาธิ
เห็นไหมล่ะว่านอกจากสุขภาพดีที่ทำได้ด้วยตัวเองแล้ว การออกกำลังกายยังเผื่อแผ่ไปยังทุกส่วนของร่างกายอย่างเช่นสมอง แถมยังส่งผลต่อจิตใจของคนผู้นั้นอีกด้วย ปราศจากความเครียดเพราะขณะที่ออกกำลังกาย สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวคือสิ่งที่ทำอยู่ในขณะนั้นจึงไม่มีสิ่งอื่นๆ ไปรบกวนจิตใจได้เลย