การสูบบุหรี่เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในสังคมไทย คนส่วนใหญ่ก็รู้ดีกว่าการสูบบุหรี่มีผลร้ายต่อสุขภาพของเราอย่างไร แต่ก็ยังมีนักสูบหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกปี โดยเฉพาะ ผู้หญิงที่มีแนวโน้มหันมาสูบบุหรี่กันมากขึ้น
จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของผู้หญิงไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550-2554 เพิ่มขึ้นจาก 1.9% เป็น 2.1%
โดยถ้าเทียบเป็นตัวเลขแล้วก็ประมาณ 6 แสนคนเลยทีเดียว ถึงแม้ผู้หญิงไทยจะมีอัตราการสูบบุหรี่ที่ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศ แต่ก็ยังถือว่าเป็นจำนวนที่มากอยู่ดี ผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากการสูบบุหรี่มากกว่าผู้ชาย ซึ่งจะมีอะไรบ้างมาดูกัน

ผู้หญิง ”สูบบุหรี่” เสี่ยงอันตรายกว่าที่คิด
เสี่ยงต่อ “มะเร็งเต้านม”
การสูบบุหรี่ในเพศหญิงจะทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมลดลง ผู้หญิงที่สูบบุหรี่จึงมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ หรือเลิกบุหรี่แล้วถึง 25%
เสี่ยงต่อ “มะเร็งปากมดลูก”
การสูบบุหรี่ จะส่งผลให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในเซลล์ปากมดลูก ทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดลง และติดเชื้อไวรัสแปปปิวโลมา (Human Papillomavirus) ได้ง่ายขึ้น
หากปากมดลูกที่ติดเชื้อไวรัสตัวนี้จะมีอัตราเสี่ยงทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่าผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 4 เท่า
เสี่ยงต่อ “การตั้งครรภ์ได้ยาก”
ผู้หญิงที่สูบบุหรี่นั้น จะมีการมาของรอบเดือนที่ไม่ปกติมากกว่าผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ ยากขึ้นถึง 3 เท่า เสี่ยงต่อการแท้งมากกว่าผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ และจะเข้าสู่วัยทองเร็วขึ้นประมาณ 2 ปี
ซึ่งอาการแบบนี้ก็จะมีผลต่อภาวะกระดูกเชิงกรานผุหรือเปราะมากขึ้นเมื่อแก่ตัวลง ทำให้เมื่อหกล้มก็จะเป็นอันตรายได้มากกว่าเดิม นอกจากนั้น ยังจะมีอาการปวดประจำเดือนมากกว่าผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ด้วย
เสี่ยงต่อ “ทารกในครรภ์ผิดปกติ”
นอกจากการตั้งครรภ์ได้ยากแล้ว ผู้หญิงที่สูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์ยังจะส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ด้วย โดยเมื่อทารกคลอดออกมามักจะพบว่า
- ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยกว่ามาตรฐานมาก
- มีปัญหาปอดเจริญเติบโตไม่เต็มที่ เลือดออกในสมอง การขับถ่ายไม่ปกติ
- เป็นโรคเกี่ยวกับระบบหายใจ และติดเชื้อได้ง่าย
- สติปัญญาพัฒนาช้ากว่าเพื่อในวัยเดียวกัน
ซึ่งสาเหตุเหล่านี้มาจากนิโคตินในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดบริเวณรกหดตัวลง และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทำให้มีออกซิเจนไปเลี้ยงทารกในครรภ์น้อยลง
ส่งผลให้ทารกเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะคลอดออกมาเป็นเด็กพิการทางปัญญาได้
เสี่ยงต่อ “โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ”
สำหรับผู้หญิงที่สูบบุหรี่และทานยาคุมกำเนิดเป็นประจำควบคู่ไปด้วย จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน หรือหัวใจวายมากขึ้นถึง 39 เท่า และมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ที่ทานยาคุมกำเนิดเช่นกันถึง 3 เท่า
สาเหตุก็เพราะ การสูบบุหรี่จะไปทำปฏิกิริยากับยาคุมกำเนิด ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและเกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะส่วนที่ไปเลี้ยงหัวใจและสมองนอกจากนั้น ถ้าเกิดใช้ห่วงคุมกำเนิดระหว่างสูบบุหรี่ก็จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการอักเสบทางอุ้งเชิงกรานมากขึ้นด้วย
เสี่ยงต่อ “การแก่เร็ว”
ผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะแก่เร็วขึ้นถึง 10 ปี เนื่องจากใบหน้าของผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะดูหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยลึก มีการเหี่ยวย่น เห็นรอยตีนกาและรอยย่นที่มุมปากได้ง่าย รวมถึงบางคนอาจจะมีเส้นลึกที่โหนกแก้มด้วย
ซึ่งริ้วรอยเหล่านี้เกิดจากการต้องหรี่ตาเวลาพ่นควันบุหรี่ออกมา นอกจากนั้น สีปากของผู้หญิงที่สูบบุหรี่ก็มีสีคล้ำกว่าปกติ เพราะสารนิโคตินในบุหรี่จะทำให้หลอดเลือดฝอยทั่วร่างกายหดตัวตลอดเวลามีผลให้เลือดไม่พอไปหล่อเลี้ยงผิวหนังนั่นเอง
ว่ากันว่า ผู้หญิงนั้นมีการเผาผลาญนิโคตินที่มากับบุหรี่แตกต่างจากเพศชาย จึงทำให้ติดง่ายและเลิกได้ยากกว่า
ซึ่งนี้ก็เป็นสาเหตุให้หลายๆ คนเลิกบุหรี่ไม่ได้ และบางคนก็มีความกังวลว่าเลิกแล้วจะอ้วน น้ำหนักตัวจะขึ้น มันก็อาจจะใช่ แต่ถ้าเทียบกับสุขภาพที่ดีในระยะยาวแล้ว การเลิกบุหรี่นั้นคุ้มค่ากว่ากันเยอะ
เราอาจจะไม่ต้องเลิกแบบทันที แต่ถ้าเราตัดสินใจเริ่มวันนี้ ค่อยๆ ทำไปทีละนิดและมุ่งมั่นเพื่ออนาคตและสุขภาพที่ดีดีกว่าค่ะ