เมื่อการเงินมีปัญหา หมุนเงินไม่ทัน หรือจำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉินเป็นเงินก้อนใหญ่ การจะไปหยิบยืมเพื่อนฝูงอาจเป็นทางเลือกที่ไม่ดีเท่าไหร่ แถมเผลอๆ จะผิดใจกันอีก หรือจะกลับไปขอเงินครอบครัวก็ดูไม่ดี ดังนั้น สินเชื่อรถยนต์นี่แหละคือทางออก!
ว่าแต่ทำแล้วคุ้มจริงไหม? แล้วถ้าต้องทำ ทำยังไงให้คุ้ม มาดูเทคนิคจาก rabbit finance ดีกว่า!
สินเชื่อรถยนต์ ทำแล้วคุ้ม หรือไม่คุ้ม?
-
สินเชื่อรถยนต์ คืออะไร ไม่ต่างจากรีไฟแนนซ์รถยนต์ใช่ไหม?
หลายคนอาจจะสงสัย และสับสนอยู่ว่า การทำสินเชื่อรถยนต์ คือแบบเดียวกับรีไฟแนนซ์รถยนต์ไหมนะ เราบอกเลยว่าคุณเข้าใจถูกแล้ว! รีไฟแนนซ์รถยนต์ หรือ สินเชื่อรถยนต์ คือการขอสินเชื่อเงินกู้ โดยใช้รถยนต์เป็นหลักประกัน ง่ายๆ ก็คือเอารถมาค้ำเงินกู้
ซึ่งการขอสินเชื่อ ก็มีทั้งกรณีที่รถยังติดไฟแนนซ์อยู่แต่อยากจะทำเรื่องขอสินเชื่อใหม่ เพื่อรับผลประโยชน์ที่ดีกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำลง กู้วงเงินได้มากขึ้น สามารถนำเงินส่วนต่างไปใช้ได้ และยืดเวลาผ่อนชำระออกไป
หรือการขอสินเชื่อรถยนต์ กรณีที่รถผ่อนหมดแล้ว ก็นำมารีไฟแนนซ์ใหม่ เพื่อขอกู้เงิน นำเงินก้อนเหล่านั้นไปหมุน ไปทำธุรกิจ เพิ่มสภาพคล่อง หรือค่าใช้จ่ายจำเป็นนั่นเอง
สินเชื่อรถยนต์ นับว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดีมากๆ สำหรับคนมีรถแต่ต้องการนำเงินก้อนไปใช้จ่ายเนื่องจากดอกเบี้ยต่ำ (เพราะมีการนำรถไปค้ำประกันช่วย) โดยการทำสินเชื่อรถจะคุ้มค่าก็ต่อเมื่อเป็นการกู้ยืมเงินระยะยาว เช่น ระยะเวลา 5 ปี ระหว่างที่เราผ่อนไปนั้น เมื่อได้เงินก้อนกลับคืนมาและอยากปิดค่างวดทั้งหมด ทางสถาบันการเงินจะลดดอกเบี้ยส่วนที่เหลือแค่ 50% ด้วยนะ
-
แล้วจำนำรถล่ะ ไม่คุ้มเหรอ?
จริงอยู่ที่การนำรถไปจำนำชั่วคราวก็ไม่ต่างอะไรไปจากการทำสินเชื่อประเภทรถยนต์ เพราะเป็นการนำเอาทรัพย์สินคือรถมาเป็นตัวค้ำประกันไว้ แต่การจะจำนำรถให้คุ้มกว่าการกู้สินเชื่อ หรือรีไฟแนนซ์นั้น ควรทำต่อเมื่อต้องการใช้เงินก้อน และสามารถหาเงินมาคืนได้ระยะเวลาสั้นๆ แค่ 1-6 เดือน
แถมไม่จำเป็นต้องมีบุคคลค้ำประกันให้วุ่นวาย ค่าใช้จ่ายไม่เยอะ และได้เงินรวดเร็ว แต่ปัญหาคือหากจำนำรถ หมายความว่า เราต้องนำรถไปจอดรถทิ้งไว้ที่เต็นท์จำนำรถนั่นเอง แน่นอนว่าเราจะไม่สามารถนำรถไปใช้งานอื่นได้
ดังนั้น หากคุณต้องการเงินก้อน ใช้เวลาสั้นๆ มั่นใจว่าหามาคืนได้แน่นอน และไม่เดือดร้อนหากต้องจอดรถทิ้งไว้ การนำรถไปจำนำชั่วคราวจะเหมาะกว่าการนำรถไปรีไฟแนนซ์มากเลยล่ะ
-
สินเชื่อรถยนต์ ทำยังไงให้คุ้มค่ากัน?
ไหนๆ ก็ขอสินเชื่อไปแล้ว ทำยังไงให้คุ้มค่ามากที่สุดนะ? เราบอกเลยว่าการขอสินเชื่อรถ หรือรีไฟแนนซ์ สามารถทำได้กับสถาบันการเงินเดิม หรือที่ใหม่ก็ได้ แต่ที่ต้องให้ความสำคัญคือผลประโยชน์ และความคุ้มค่าที่จะได้รับตามมานั่นเอง โดยเฉพาะเรื่องของดอกเบี้ย และเงื่อนไขต่างๆ
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจกันก่อนว่า การประเมินราคา และดอกเบี้ย ของรถที่นำมาทำสินเชื่อนั้น จะมีเงื่อนไขขึ้นอยู่กับรุ่น และปีรถ ยิ่งรถของเราเป็นรถรุ่นตลาด ก็ยิ่งมีโอกาสได้วงเงินอนุมัติสูง และแน่นอนว่าตัวรถต้องไม่ผ่านการดัดแปลงเปลี่ยนตระกูลมา
เช่น รถยี่ห้อ A แต่เครื่องยนต์ของยี่ห้อ B จะไม่สามารถนำมาประเมินได้ โดยการเปลี่ยนแปลงรถทุกครั้ง ต้องมีระบุในเล่มทะเบียน เช่น ติดแก๊ส ก็ต้องมีบันทึกไว้ ที่ควรระวังคือ หลายสถาบันการเงินจะไม่รับรถรับจ้าง อย่าง รถแท็กซี่ หรือ รถบรรทุก
ส่วนใครที่มีข้อสงสัยว่า หากรถเรายังผ่อนไม่หมด แต่จำเป็นต้องทำสินเชื่อเพื่อนำเงินก้อนไปหมุน จะสามารถทำได้ไหม บอกเลยว่าทำได้ แต่คุณควรผ่อนไปมากกว่า 50% จากยอดทั้งหมดแล้วถึงจะคุ้มค่า เพื่อให้ยอดรีไฟแนนซ์มีมากกว่ายอดหนี้ตัวรถนั่นเอง
ส่วนตัวผู้ขอกู้ หรือตัวคุณเองนั่น ก็ถือว่าสำคัญต่อการขอสินเชื่อให้คุ้มเช่นกัน สำหรับเงื่อนไขในกรณีของผู้กู้ มีกำหนดไว้ว่ารถที่จะนำมาใช้ในสินเชื่อนั้น ต้องเป็นรถในครอบครองของเราเกิน 6 เดือน ขึ้นไป
สำหรับเรื่องของฐานเงินเดือน ไม่ได้ใช้เพื่อดูความสามารถในการชำระหนี้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังใช้ในการพิจารณา และมีผลต่อการขออนุมัติสินเชื่ออีกด้วย
นอกจากนี้ หากคุณอยากจะทำสินเชื่อรถยนต์ให้คุ้ม ควรให้ความใส่ใจ แม้แต่กับส่วนต่างของดอกเบี้ยเล็กๆ น้อยๆ
เชื่อหรือไม่ว่า เพียงแค่ส่วนต่างเป็นเลขทศนิยมเล็กๆ น้อยๆ ของดอกเบี้ย ถ้าหากเราลองคำนวณเป็นเงินดีๆ เวลาที่ต้องจ่ายผ่อนชำระคืนจำให้ราคาที่แตกต่างกัน (มาก) อย่างไม่น่าเชื่อ คุณอาจจะประหยัดไปได้เป็นหลักร้อย หลักพันเลยก็ได้ เพียงแค่สถาบันการเงินให้ราคาดอกเบี้ยแตกต่างกัน
นอกจากนี้ อย่าลืมดูยอดประเมินราคารถด้วยว่ามี ที่ไหนให้สูงกว่า และอยู่ในวงเงินที่คุณสามารถผ่อนชำระได้สบาย ลองคิดดูสิ จริงอยู่คุณอาจจะได้วงเงินสูงๆ แต่ถ้าดอกเบี้ยแพงมากๆ การผ่อนทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของคุณลำบาก ต้องรัดเข็มขัดบ่อยๆ แทนที่จะคุ้มค่า อาจจะกลายเป็นว่าสร้างหนี้ใหม่ก็ได้นะคะ
-
สรุปแล้วคุ้ม? หรือไม่คุ้ม?
ข้อดีหลักๆ ที่เราเห็นได้จากการทำสินเชื่อประเภทรถยนต์ คือจะได้เงินก้อนส่วนต่างมาใช้หมุนเวียนยามฉุกเฉิน เหมือนนำรถมาค้ำประกัน กู้ยืมเงินผ่านธนาคารด้วยวิธีรีไฟแนนซ์ แต่ได้ดอกเบี้ยที่ถูก และลดภาระการผ่อนลงได้
แต่สิ่งที่คุณควรระวังคือ การขอสินเชื่อประเภทรถยนต์จะทำให้ระยะเวลาการผ่อนนานขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะจำนวนเงินผ่อนรายงวดน้อยลง แต่ถ้าสังเกตให้ดี มันทำให้เราเป็นหนี้มากขึ้นกว่าเดิม ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อน หรือ ต้องลดภาระการผ่อนชำระ ขอแนะนำว่าไม่ต้องรีไฟแนนซ์ก็ได้
แต่ถ้าคุณยังยืนยันว่า จำเป็นต้องใช้เงินก้อนโต หรืออยากจะผ่อนค่าใช้จ่ายด้านรถยนต์ต่อรายเดือนลง เพราะไม่ไหวจริงๆ รีไฟแนนซ์รถก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ช่วยให้การเงินของคุณไม่มีสะดุด
ที่สำคัญคือการมีระเบียบวินัยทางการเงินไม่ควรละเลย เมื่อขอสินเชื่อไปแล้ว ไม่ควรนิ่งนอนใจกับเงินก้อนที่ได้มา แต่ควรรีบวางแผนการใช้จ่ายเงินอย่างเคร่งครัด เพราะคงไม่ดีแน่ถ้าเราปล่อยให้เงินก้อนที่มากู้วิกฤตการเงิน กลายเป็นหนี้พอกพูน บางคนไม่มีจ่ายจนมีการยึดรถเกิดขึ้นได้
ถ้ามั่นใจว่าคุณสามารถควบคุมแผนการเงินต่างๆ ได้ การทำสินเชื่อรถยนต์ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด สำหรับใครที่สนใจ หรืออยากจะหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็ต้องนี่เลย rabbit finance ที่รวบรวม ไว้ให้คุณได้ลองเปรียบเทียบ หาข้อมูลไว้ครบเสินเชื่อรถยนต์ จาก ธนชาต รถแลกเงินสร็จสรรพ
สินเชื่อรถยนต์ จาก ธนชาต ให้ดอกเบี้ยต่ำ แสนละ 59 บาท/วัน ผ่อนสบายๆ นาน 72 เดือน ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน และให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมิน ที่สำคัญ ยังอนุมัติรวดเร็วทันใจ ภายใน 1-3 วัน!
วางแผนการเงินให้ดี รับรองว่ารถยนต์ที่คุณนำมาขอสินเชือจะเป็นผู้ช่วยที่แสนดีให้คุณผ่านพ้นวิกฤตไปได้อย่างแน่นอน!
หากท่านสนใจสินเชื่อประเภทอื่นๆ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ rabbitfinance.com