ปัจจุบันการเลือกซื้อทาวโฮม ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เพราะมีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 1 ใน 3 ของตลาดที่อยู่อาศัยทั้งหมด เนื่องจากทาวน์โฮมนั้นสามารถจับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นวงกว้าง และตลาดทาวน์โฮมก็ราคาไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวหรือคอนโดมิเนียม และถ้ากำลังจะตัดสินใจซื้อทาวน์โฮมต้องเลือกดูอะไรบ้าง rabbit finance มีข้อมูลดี ๆ เพื่อการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนตัดสินใจซื้อมาฝากกัน
7 ข้อต้องรู้ก่อนตัดสินใจ ‘ซื้อทาวน์โฮม’
1.เลือกที่ตั้งโครงการ
หลายคนเลือกซื้อทาวน์โฮม เนื่องจากมีพื้นที่ขนาดกว้างและสามารถปรับแต่งเป็นโฮมออฟฟิศได้ หรือจะเปิดเป็นร้านค้าเล็ก ๆ ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังดัดแปลงพื้นที่รอบ ๆ ให้ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับหลากหลายกิจกรรม การเลือกทำเลที่ตั้งของโครงการจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะทาวน์โฮมตามแนวรถไฟฟ้าที่จะทำให้การเดินทางนั้นสะดวกสบาย ไม่ต้องเจอรถติด หรือสิ้นเปลืองเงินกับค่าเดินทางอีกด้วย
นอกจากนี้ถ้าใครมีรถขับก็ควรจะเลือกเส้นทางที่สามารถเข้าออกได้หลากหลาย อาจจะเลือกที่ตั้งโครงการที่สามารรถเชื่อมต่อกับทางด่วนเส้นสำคัญ หรือถนนหลักหลาย ๆ เส้นทาง เพื่อให้การเดินทางสะดวกสบาย แถมยังช่วยให้คุณเข้า – ออก ได้หลายทางอีกด้วย
2.ความสะดวกสบายรอบ ๆ โครงการ
เมื่อพิจารณาถึงทำเลที่ตั้งของโครงการแล้ว ลำดับต่อมาที่ต้องพิจารณาก็คือสถานที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกรอบ ๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ทำงาน สถานีตำรวจตลาดสด ตลาดค้าปลีก และซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากทาวน์โฮมที่เลือกมีสถานที่สำคัญที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตครบถ้วน คุณก็ไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดเข้าเมือง หรือใช้เวลาเดินทางนานเกินความจำเป็น
นอกจากนี้ ถ้าใครเล็ง ๆ ว่าจะซื้อทาวน์โฮมไว้เพื่อเก็งกำไร หรือปล่อยให้เช่า ก็จะถือว่าเป็นทำเลทองที่จะสร้างมูลค่าให้ได้ในอนาคต เพราะเนื่องจากว่ามีความสะดวกสบายในการเข้าออกของโครงการแล้ว ยังอยู่ใกล้กับบรรดาสาธารณูปโภคต่าง ๆ อีกด้วย
3.เจ้าของโครงการมีความน่าเชื่อถือ
บริษัทที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภททาวน์โฮมมีให้เลือกมากมายในท้องตลาดใน ปัจจุบัน และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อซื้อทาวน์โฮมของโครงการบริษัทนี้แล้วจะไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง คุณจึงต้องพิจารณาให้รอบคอบและศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด
โดยพิจารณาดูว่าเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีมาตรฐานชั้นนำในเมืองไทยหรือไม่ มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ด้วยประสบการณ์กี่ปี มีลูกค้าร้องเรียนต่อโครงการบ้างหรือไม่ และเคยมีข่าวฟ้องร้องตามหน้าหนังสือพิมพ์บ้างหรือเปล่า เพราะทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งต่อต่อความน่าเชื่อถือและการันตีคุณภาพเจ้าของโครงการทาวน์โฮมที่คุณสนใจ
4.ระบบรักษาความปลอดภัย
โครงการทาวน์โฮมที่ดีต้องมีการวางระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นประตูเข้า – ออกของโครงการ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลการแลกบัตรจากรถผ่านภายนอกที่เข้าสู่ภายในโครงการ มีเวรยามตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง และในช่วงนี้ต้องมีการคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 ก่อนเข้าหมู่บ้านเพื่อความอุ่นใจของสมาชิกโครงการอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ณ ปัจจุบัน หลาย ๆ โครงการทาวน์โฮมต่างยกระดับงานรักษาความปลอดภัยด้วย IoT ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกล้องวงจรปิด CCTV เข้าสู่ส่วนกลาง อีกทั้งการติดตั้งเซนเซอร์และ AI เพิ่มเติม เพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวและวิเคราะห์เหตุการณ์ผิดปกติ ที่จะส่งสัญญาณเตือนมายังผู้ดูแลเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน ทำให้ผู้ดูแลสามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุเพื่อระงับหรือป้องกันได้อย่างทันท่วงที ทำให้ลูกบ้านรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น
5.สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง
สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง หรือ Facilities ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะล้วนส่งผลต่อคุณภาพการอยู่อาศัยของลูกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อการพักผ่อน ลานกิจกรรม ห้องประชุม อาคารรับรอง รวมทั้งพื้นที่สำหรับออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามบาส และสนามฟุตบอล เป็นต้น
นอกจากนี้ คุณยังต้องคำนึงถึงระบบจัดการขยะภายในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นเวลาเก็บขยะ การวางถังขยะตามจุดต่าง ๆ รวมทั้งระบบคัดแยกขยะที่มีประสิทธิภาพ โดยทั้งหมดนี้ต้องสมกับค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายในแต่ละปี เนื่องจากปัญหาเรื่องขยะเป็นสิ่งที่กวนใจลูกบ้านเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าโครงการไหนจัดการไม่ดีอาจจะกลายเป็นปัญหามลภาวะได้อีกด้วย
6.คุณภาพวัสดุ และการออกแบบพื้นที่
วัสดุต่าง ๆ ที่นำมาก่อสร้างและตกแต่งทาวน์โฮมถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คุณต้องตรวจดูก่อนซื้อว่าได้มาตรฐานหรือไม่ คุณภาพสมราคาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกพื้น การก่อผนัง การทาสี ระบบไฟฟ้า และระบบน้ำประปาภายในทาวน์โฮม ต้องออกแบบให้ได้มาตรฐานและตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย บางโครงการเน้นดีไซน์แปลกตาแต่อยู่ไม่สบาย บางแห่งอยู่สบายแต่ออกแบบไม่ทันสมัยเท่าไหร่
นอกจากนี้ยังต้องเช็กวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในทาวน์โฮมด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกประตู หน้าต่าง กระเบื้องปูพื้น กระเบื้องส่วนซักล้าง ห้องน้ำ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่ติดตั้งมาให้พร้อมบ้าน ทุกอย่างควรสัมพันธ์และไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ถ้ารูปแบบทาวน์โฮมเป็นสไตล์โมเดิร์น การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรือวัสดุต่าง ๆ ก็ควรทันสมัยและคุมโทนสีสบายตา หรือแม้แต่การเลือกประตูที่ทำจากวัสดุแบบกันน้ำและทนทาน ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดปัญหาเชื้อรา หรือน้ำรั่วซึมในวันข้างหน้า
7.บริการหลังการขาย
บริการหลังการขายเป็นอีกสิ่งที่ต้องคำนึง เพราะในบางครั้งบ้านที่เราซื้อไปแล้วนั้น อาจเกิดมีวัสดุชำรุดเสียหายจากการใช้งานในชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งแต่ละโครงการย่อมสร้างกลยุทธ์ดูแลลูกค้าหลังการขายแตกต่างกันไป เช่น บริการซ่อมแซมบ้านฟรี หรือมีช่างพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง บางโครงการมีแอปพลิเคชั่นให้แจ้งซ่อมแซมและติดตามผลแบบออนไลน์ง่าย ๆ เรียกว่าสะดวกสบายและน่าประทับใจสุด ๆ เลย
หากคุณอยู่ในวัยสร้างตัว หรือกำลังมองหาที่อยู่อาศัยเพื่อครอบครัว ทาวน์โฮมก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยขนาดที่พอเหมาะ ดูแลง่าย แถมราคาก็เอื้อมถึงได้สบาย ๆ เพียงแต่ต้องเลือกให้ดี และเหมาะกับไล์สไตล์ของตัวเองที่สุด เพราะคำว่า ‘อยู่สบาย’ ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ยังไงก็ต้องเอาที่เราแฮปปี้ไว้ก่อนนะคะ
สนใจ ซื้อทาวน์โฮม นึกถึง rabbit finance