จัดเลยดีไหม? ถ้าจะซื้อคอนโดฯ ช่วงนี้?

ใครๆ ก็บอกว่า ช่วงนี้คอนโดฯน่าซื้อ เพราะราคาลงจากสถานการณ์ โควิด-19 จะเป็นแบบนั้นจริงไหมนะ ? แล้วเราควรซื้อจริงๆ ตามคำแนะนำเหล่านั้นหรือเปล่า แล้วจะขอสินเชื่อได้ง่ายไหม ในสถานการณ์แบบนี้ ลองมาหาคำตอบกันดีกว่า 

จัดเลยดีไหม? ถ้าจะซื้อคอนโดฯ ช่วงนี้?

ส่องสถานการณ์ คอนโดฯ ช่วง โควิด-19

สำหรับสถานการณ์ โควิด-19 เชื่อว่า ใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นแน่นอน นอกจากจะเป็นโรคระบาดที่สามารถต่อต่อกันได้ง่ายแล้ว ยังทำหลายธุรกิจหยุดชะงัก หลายๆ ประเทศต้องชะลอการใช้จ่ายลง เพื่อกักตุนไว้เงินไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน

ส่วนสถานการณ์ซื้อขายคอนโดในไทยนั้น เมื่อลองเปรียบเทียบแล้ว ในกรุงเทพฯ มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ปรับลดลงถึง 12% ในรอบ 1 ปี และมีการคาดการณ์ว่า จะมีการปรับลดลงของราคาลงอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้ง ปี พ.ศ. 2563 นี้

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องแข่งขันกันในเรื่องราคา พร้อมโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถมต่างๆ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้ซื้อคอนโดมากขึ้น ทำให้หลายคนที่อยากจะซื้อคอนโดฯไว้อยู่แล้ว ต่างให้ความสนใจกับราคาซื้อคอนโดฯในช่วงนี้มากๆ 

นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องการซื้อขายของคอนโดฯเท่านั้น ที่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ยังส่งผลต่อความนิยมต่างๆ ในหมู่คอนโดฯด้วยกันเองอีกด้วย อย่างบางคอนโดฯปรับตัวเพิ่มพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง เช่น ห้องนอน ห้องครัว รวมถึงพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้เหมาะกับการทำงานที่บ้าน ในช่วงยุค โควิด-19 มากขึ้นด้วย 

ส่วนผลสำรวจอื่นๆ ที่น่าสนใจ คือ 

• กลุ่มคอนโดฯที่ครองความนิยมในการซื้อ ยังคงเป็นคอนโดฯที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท คิดเป็น 60% 
  
  

• ส่วนทำเลที่ตั้งของคอนโดฯที่อยู่ใจกลางเมือง เช่น อโศก สุขุมวิท พระราม 9 รัชดา พระราม 4 ฯลฯ ยังคงได้รับความสนใจอย่างดี เนื่องจากสะดวกในการเดินทาง ใกล้กับ BTS และ MRT 
  
  

• ส่วนคอนโดฯ ที่ตั้งอยู่รอบเมือง เช่น รามคำแหง ท่าพระ แบริ่ง ฯลฯ ได้รับความสนใจไม่น้อยอยู่ที่ 49.6% ที่ เนื่องจาก แม้จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง แต่ก็ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองไม่นานนัก

นอกจากนี้ แม้คอนโดจะมีการปรับตัวการซื้อขายที่ลดลง แต่อสังหาริมทรัพย์ ประเภท บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ กลับได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น อาจจะด้วยความที่หลายคนอยากได้พื้นที่ส่วนตัว ต้องการ social distance หรือเน้นไปที่ การรักษาระยะห่าง รวมกับโปรโมชั่นต่างๆ การลดดอกเบี้ยใน ช่วง โควิด-19 ทำให้หลายคนเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์แนวราบมากกว่านั่นเอง

มีอะไรน่าสนใจ ทำไมถึงน่าซื้อในช่วงนี้ 

ราคา และโปรโมชั่น ที่น่าสนใจ

ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือคอนโดฯ จากสถานการณ์ที่ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอย ทำให้อสังหาริมทรัพย์แต่ละเจ้าก็ลดราคากันอย่างหนัก รวมไปถึงการเพิ่มโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เพื่อกระตุ่นยอดขาย 

เช่น อยู่ฟรี 2 ปี (ฟรีต้นและดอก) ฟรีดอกเบี้ย 2 ปีแรก, ได้ของแถม ลุ้นรับรางวัลใหญ่ต่างๆ  รวมไปถึง ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการโอน ค่าส่วนกลาง, บางคอนโดฯปรับราคาลดสนั่น จาก 3 ล้านบาทต้นๆ เหลือที่ 2.5 ล้านบาท ก็มี

ทั้งนี้ เกิดจากยอดขายของอสังหาริมทรัพย์ที่ช่วงนี้ถดถอย หลายเจ้าจึงออกมาลดแลกแจกแถมเพื่อความอยู่รอดนั่นเอง หากใครที่กำลังเล็งคอนโดฯอยู่ ช่วงนี้จึงเหมาะมากๆ บางเจ้าเป็นคอนโดมือหนึ่ง ที่ราคาถูกกว่าคอนโดมือสองเสียด้วยนะ!

ช่วงนี้ จังหวะดี ขอสินเชื่อง่าย 

ถึงแม้การออกบัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล อาจจะทำได้ยาก แต่กลับกัน การขอกู้ หรือขอสินเชื่อเพื่อไปซื้อบ้าน นับได้ว่าเป็นโอกาสดี มีโอกาสสูงที่จะขอกู้ได้เต็มมูลค่าของบ้าน 100% หรือคอนโด (สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 10 ล้านบาท) จากเดิมที่อาจจะได้แค่ 90-95% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อ-ขายเท่านั้น โดยเฉพาะการกู้ซื้อครั้งแรก เนื่องจากรัฐบาลได้พยายามกระตุ้นให้เกิดการซื้ขายในเศรษฐกิจนั่นเอง

ทั้งนี้ แม้การจะขอกู้ได้เต็มมูลค่าจะมีโอากาสขอกู้ได้ง่ายขึ้น แต่ทางธนาคาร หรือสถาบันการเงินจะมีต้องพิจารณาข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น รายได้, อาชีพ, ภาระผ่อนหนี้เดิม, ประวัติการผ่อนชำระ เป็นต้น

และสำหรับใครที่กังวล กลัวว่ารายได้ของตนจะไม่ถึงเกณฑ์ที่สถาบันทางการเงินกำหนดไว้ ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะเดี๋ยวนี้ การกู้ร่วมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่หลายคนนิยมกันมากขึ้น 

โดยการกู้ร่วมนั้น คือการที่ผู้กู้ร่วมทั้งหมด ร่วมกันเซ็นสัญญากู้ ด้วยรายได้รวมกันที่ถึงเกณฑ์ที่สถาบันการเงินกำหนด ปัจจุบันเปิดโอกาสให้มีผู้กู้ร่วมได้ ไม่เกิน 3 คน (รวมตัวผู้กู้เป็น 3 คน) แต่มีเงื่อนไขว่า ผู้กู้ร่วมนั้น ต้องเป็นญาติด้วย

ดอกเบี้ยถูกได้ใจ เหมาะผ่อนคอนโด

ด้วยสถานการณ์ที่เศรษฐกิจค่อนข้างซบเซา ทำให้มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทางธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ สถาบันการเงินทั้งหลาย ปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อแบบลอยตัวลง ดังนั้น เมื่อดอกเบี้ยต่ำลง ก็จะทำให้เรามีต้นทุนการกู้ที่ถูกลง และยอดผ่อนต่อเดือนน้อยลงไปด้วย 

เช่น ถ้าเรากู้บ้าน 2 ล้านบาท ปัจจุบันยอดผ่อนต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 8,000-11,000 บาท ซึ่งหากเทียบกับอัตราดอกเบี้ยในช่วงปีก่อนหน้า อาจต้องผ่อนถึงประมาณ 12,000-14,000 บาท เลย เลยทีเดียว! 

สำหรับใครที่อยากมีคอนโดฯ และอยากผ่อนในราคาที่จับต้องได้ รหือใครที่เล็งไว้ว่าจะรีบผ่อนให้จบ ก็เป็นโอกาสที่ดีมากๆ เลยล่ะ

นอกเหนือจากเรื่องราคาถูก ดอกเบี้ยต่ำ ขอสินเชื่อง่ายแล้ว การเลือกซื้อคอนโดฯในช่วงนี้ ก็ดูปลอดภัย และสะดวกสบายกว่า เช่น หากเราต้องกักตัว หรือต้อง WFH การมีห้องคอนโดเป็นของตัวเองก็เหมาะกว่ามาด้วยนะ

ซื้อขายคอนโดช่วงนี้ถูกจริง แต่ต้องระวัง! 

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า จากสถานการณ์ นี่คือโอกาสที่ดีมากๆ ถ้าจะซื้อคอนโดฯ หรืออสังหารมิทรัพย์เก็บเอาไว้ แต่ทั้งนี้ อย่ารีบร้อน กระโจนซื้อทันทีโดยไม่เช็กก่อนว่า ตัวคุณพร้อมเป็นหนี้สินในระยะยาวหรือยัง ?

อย่างที่รู้กันดีว่า อสังหาริมทรัพย์นั้น เป็นหนี้สินระยะยาว ต้องใช้เวลานานเป็นสิบๆ ปีในการผ่อนให้หมด ทำให้ในแต่ละเดือน คุณจะมีภาระด้านค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หากประเมินแล้วว่า หน้าที่การงานของคุณยังมั่นคงดี มีเงินเก็บที่มากพอ อย่างน้อย 8-10 เดือน ในการจ่ายค่าผ่อนคอนโดฯ และใช้ในชีวิตประจำวัน ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน อย่างการต้องออกจากงาน

ส่วนใครที่มองว่า อยากกว้านซื้อไว้เพื่อการลงทุน ก็ต้องประเมินให้ดี เนื่องจากคนปรับลดการใช้จ่ายอื่นๆ ขึ้น ประกอบกับการที่คอนโดฯเริ่มมีราคาลง การเลือกซื้อคอนโดฯจากทางเจ้าของโครงการโดยตรง อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

ดังนั้น ถ้าจะลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ช่วงนี้ จะต้องมั่นใจว่า เงินที่ลงทุนไป ไม่ใช่เงินไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ต้องเป็นเงินเย็นที่รอคอยการกลับมาทำกำไรได้ เช่น การปล่อยคอนโดฯให้เช่า, การเก็บห้องคอนโดฯไว้เก็งกำไรภายหลัง หรือ เก็บเป็นคอนโดฯมือสองไว้ขาย

สรุปแล้ว ในแง่ของการซื้อลงทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนทันทีนั้น การซื้อคอนโดฯปล่อยเช่า หรือปล่อยขาย อาจจะยังไม่ใช่โอกาสดีเท่าไหร่ ยกเว้นเสียแต่คุณมีเงินก้อนโต ที่ยังไม่ได้นำไปทำอะไร เวลานี้อาจจะเหมาะกับการกว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้ลงทุนต่อไปภายหลัง

แต่ถ้าคุณใฝ่ฝันอยากมีบ้าน มีคอนโดฯ เป็นของตัวเอง โอกาสนี้อาจจะเหมาะ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องประเมินความเสี่ยงต่างๆ ของคุณควบคู่ด้วยนะ 

ใครที่สนใจ คลิกเลย! สินเชื่อบ้าน จาก Rabbit Care ! พร้อมบริการเปรียบเทียบสินเชื่อ จะซื้อบ้าน ซื้อคอนโดฯ ก็หมดห่วง!

คะน้าใบเขียว

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care