เมื่อร่างกายอ่อนแอลง โรคภัยไข้เจ็บย่อมจะมาเยือนเราในไม่ช้า รถของคุณก็เช่นกัน เมื่อมีบางอย่างผิดปกติไป ปัญหาต่างๆ ที่จะทำให้รถไม่สามารถใช้งานได้ปกติ รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆก็จะตามมาด้วย ดังนั้น วันนี้เรามีวิธีสังเกตความผิดปกติที่เกิดกับรถยนต์สุดรักของคุณมาฝากค่ะ
7 สัญญาณเตือนสุขภาพรถคุณกำลังแย่
1.กว่ารถจะสตาร์ทติดนานจัง
หากคุณพบว่า รถยนต์คันโปรดสตาร์ทติดยาก หรือต้องใช้เวลาในการสตาร์รถนานกว่าที่เคยเป็น อาจจะเป็นไปได้ทั้งในกรณีที่ แบตเตอรี่รถยนต์หมดอายุ หรือ แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม หรือขั้วแบตมีปัญหา ดังนั้น คุณจึงต้องหมั่นตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่รถยนต์ให้มีสภาพที่พร้อมใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น
- สภาพภายนอกของแบตเตอรี่รถยนต์
- ความสะอาดของขั้วแบตเตอรี่รถยนต์
- ระดับน้ำกลั่น
- ตรวจสอบระบบชาร์จไฟ
หรือ ในกรณีที่คุณไม่แน่ใจว่าแบตเตอรี่รถของคุณอยู่ในสภาพดีหรือไม่ เราแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือนำรถเข้าเช็คกับอู่ซ่อมรถที่คุณไว้ใจก็ได้ค่ะ
2. เสียงดังผิดปกติเมื่อเบรก
หากเมื่อกดเบรกแล้ว คุณได้ยินเสียงผิดปกติดังมาจากในรถ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า หรือ ด้านหลังรถก็ตาม นั่นอาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่า ผ้าเบรกใกล้หมดอายุการใช้งาน เราแนะนำให้คุณรีบทำการเปลี่ยนผ้าเบรกให้เร็วที่สุด เพราะหากทิ้งระยะไว้นานจนเกินไป อาจเกิดความเสียหายขึ้นกับชุดจานเบรกได้
นอกจากนี้ หากเบรกมีปัญหา อาจจะส่งผลให้รถของคุณเกิดอาการเบรกลื่นหยุดรถไม่อยู่ หรือ เบรกแล้วปัด เพราะแป้นเบรกจมแม้จะไม่ได้เหยียบเบรกแล้วก็ตาม หากเป็นอย่างนี้ เราแนะนำให้คุณรีบนำรถเข้าอู่หรือศูนย์ซ่อมอย่างด่วนเลยค่ะ
3. สัญลักษณ์ต่างๆ
-
รูปหยดน้ำมันสว่างขึ้นบนหน้าจอ
เป็นสัญญานเตือนว่า คุณขับรถโดยไม่มีน้ำมันหล่อลื่น ควรจอดรถและดับเครื่องยนต์ทันที เพราะนั่นหมายความว่า น้ำมันเครื่องในระบบไม่มีการหมุนเวียนแล้ว
-
สัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์สว่างขึ้นบนหน้าจอ
อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า ระบบเครื่องยนต์มีปัญหา แต่ในกรณีที่รถของคุณยังสามารถขับได้ เร่งเครื่องได้ปกติ เราแนะนำให้สังเกตความผิดปกติอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย
โดยเฉพาะ เรื่องความร้อน ถ้าความร้อนปกติ ก็สามารถขับต่อไปได้ แต่ไม่ควรใช้ความเร็วและรอบเครื่องยนต์สูงนัก และหาศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด
4.เกียร์ไม่เข้าตามตำแหน่ง
ความผิดปกติของเกียร์ อาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ความผิดพลาดทางเทคนิค หรือ น้ำมันเกียร์มีปริมาณต่ำกว่าที่กำหนด หรือแม้แต่การใช้ความหนืดผิดจากที่กำหนด สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อการทำงานของชุดเฟืองในเกียร์ทั้งสิ้น
ระบบเกียร์มีปัญหาจะพบได้ในกรณีที่เกียร์รถยนต์ของคุณผ่านการใช้งานมาในระยะหนึ่งแล้ว และ ส่วนใหญ่จะเกิดปัญหานี้กับรถยนต์ที่ใช้ระบบเกียร์ธรรมดา มากกว่า แต่ถึงอย่างนั้น คนที่ขับรถโดยใช้เกียร์ออโต้ ก็ต้องหมั่นเช็คระบบเกียร์อยู่เสมอนะคะ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นนั่นเองค่ะ
5.มีควันขาวออกจากท่อ
หากคุณพบว่า รถยนต์ของคุณมีควันขาวออกจากท่อมากผิดปกติ นั่นคือสัญญาณที่บอกว่าคุณต้องนำรถสุดรักของคุณเข้าอู่หรือศูนย์ซ่อมอย่างด่วน เลยค่ะ เพราะ สาเหตุที่ทำให้เกิดควันขาวนี้ ก็มาจาก มีน้ำมันเครื่องหลุดลอดเข้าไปในห้องเครื่องรถยนต์ แล้วเกิดการเผาไหม้ผสมไปกับเชื้อเพลิง (น้ำมันหรือแก็ส) นั่นเองค่ะ
และวิธีการเช็คว่ารถของคุณปล่อยควันขาวหรือไม่ก็ไม่ยากเลยค่ะ คุณสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง ในขณะที่รถติดเครื่องยนต์อยู่ ด้วยการ เร่งเครื่องยนต์ให้สุดคันเร่งประมาณ 2-4 วินาที จากนั้นก็สังเกตปริมาณควันที่ออกมาจากท่อไอเสียรถยนต์
หากพบว่า รถของคุณมีควันมากกว่าปกติ ก็สันนิษฐานได้เลยค่ะว่า รถยนต์ของคุณมีความผิดปกติแน่นอน และคุณต้องนำรถเข้าอู่เพื่อตรวจเช็คโดยด่วน ห้ามทิ้งไว้อย่างเด็ดขาดเลยนะคะ
6.ขับรถแล้วรู้สึกนุ่มนวลผิดกว่าปกติ
แม้ว่าความรู้สึกนุ่มนวลเวลาขับรถจะเป็นสิ่งดี แต่หากคุณพบว่า เมื่อคุณขับรถคันโปรดแล้วสัมผัสรู้สึกว่ารถที่เราขับอยู่ทุกวันให้ความรู้สึกนิ่มนวลผิดปกติไปจากเดิม ให้คิดได้เลยค่ะว่า เกิดปัญหาขึ้นกับรถยนต์คันโปรดของคุณอย่างแน่นอนแล้ว ปัญหาส่วนใหญ่ก็คือ
- ลมยางอ่อน (บางครั้งเกิดในกรณีที่ยางรถยนต์รั่ว)
- ระบบช่วงล่างบางชิ้นเสื่อมสภาพ ส่วนมากพบปัญหาเหล่านี้ที่ สปริง หรือ โช๊ค
และหากว่าคุณพบความผิดปกตินี้เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ เราแนะนำให้คุณรีบเอารถเข้าตรวจเช็คที่อู่หรือศูนย์ซ่อมที่ใกล้ที่สุดทันทีจะดีที่สุดค่ะ
เพราะความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์เป็นเรื่องสำคัญ ที่ใครๆก็ไม่ควรมองข้าม ดังนั้นคุณควรหมั่นเช็คความพร้อมของรถยนต์ของคุณอยู่เสมอ เพื่อให้การขับขี่รถยนต์ในแต่ละครั้ง มีทั้งความปลอดภัยและได้สมรรถนะที่ดีที่สุดนั่นเองค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.fixzyauto.com
สนใจทำประกันรถยนต์ ราคาประหยัด https://finance.rabbit.co.th/car-insurance