แคร์ยานยนต์

รวม! สาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด

ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ

ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี

close
Published July 21, 2020

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

ปัญหารถสตาร์ทไม่ติดถือเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งเวลารีบด่วน หรือบางครั้งติดไฟแดงกลางสี่แยก หากสตาร์ทอยู่นานแล้วยังไม่ติดคงได้รับคำสรรเสริญจากรถคันอื่นไม่น้อย เรามาดูว่า สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด ซึ่ง Autospinn ก็รวบรวมทุกความเป็นไปได้มาฝากเพื่อน ๆ แล้ว


สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด

สาเหตุหลัก ๆ เบื้องต้นที่ผู้ขับขี่รถยนต์ควรทราบว่าอะไรที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด จะได้รีบตรวจเช็ก แก้ไขหรือนำรถเข้าศูนย์ซ่อม เข้าอู่ซ่อม อีกทั้งเมื่อทราบสาเหตุ ก็จะช่วยป้องกันการโดนหลอกให้จ่ายค่าซ่อมบำรุงเกินจริงได้อีกด้วย

สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด

1.น้ำมันหมด

น้ำมันหมดเป็นสาเหตุหลักที่เราคาดไม่ถึง อาจเพราะลืม หรือคิดว่าเติมน้ำมันไปแล้ว ให้ดูจากไฟสัญลักษณ์ที่ขึ้นเตือน ซึ่งเราควรตรวจเช็คน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากในครอบครัวใช้รถคันเดียวกัน ต่างคนต่างใช้ อาจไม่มีใครสังเกตว่าน้ำมันมีเพียงพอที่จะออกไปทำธุระข้างนอกหรือไม่

สาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด

2.แบตเตอรี่เสื่อม

แบตเตอรี่รถหากใช้งานมามากกว่า 2-3 ปี เป็นไปได้ว่าแบตเตอรี่เสื่อม แบตเตอรี่อ่อนหรือหมด อาการของแบตอ่อนคือ สตาร์ทแล้วมีเสียงแกร๊กๆ เนื่องจากตัวแบตเตอรี่เก็บประจุไฟฟ้าได้ในระยะเวลาสั้นๆ และแบตหมดไวขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะพบได้ในกรณีที่รถสตาร์ทติดยากหรือสตาร์ทไม่ติดในตอนเช้า

หากพบว่าเกิดอาการ ให้ลองพ่วงแบตเตอรี่จากรถยนต์คันอื่น หากพ่วงแล้วรถของคุณสตาร์ทติดง่ายขึ้น หรือสตาร์ทติดในทันที แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

ปัญหารถสตาร์ทไม่ติด

3.ไดชาร์จเสื่อม

หากเปลี่ยนแบตเตอรี่รถใหม่แล้ว แต่รถยังมีอาการสตาร์ทติดยาก หรือยังมีอาการสตาร์ทไม่ติด แสดงว่าไดชาร์จอาจจะมีปัญหา หรือหมดอายุการใช้งาน

สาเหตุที่ทำให้ไดสตาร์ทไม่ทำงานก็มีหลายสาเหตุ เช่น แปลงถ่านในไดสตาร์ทหมด หรือขดลวดภายในไหม้ อาการของไดสตาร์ทไม่ทำงานก็คือ สตาร์ทแล้วไม่มีเสียงอะไรขึ้น ทั้งๆที่แบตเตอรี่ก็ยังไม่หมด วิธีเช็คไดชาร์จเสื่อม

แนะนำให้ลองสตาร์ทรถทิ้งไว้ซักพัก จากนั้นให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ออกหนึ่งข้าง หากรถของคุณมีอาการไฟตก รถกระตุกหรือรถดับ แสดงว่าไดชาร์จรถยนต์ของคุณเสื่อมแน่นอน

ระบบไฟฟ้าในรถมีปัญหา

4.ระบบไฟฟ้าในรถมีปัญหา

ระบบไฟฟ้ามีปัญหาอาจจะเกิดได้ในกรณีที่มีการจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ จนหนูเข้ามากัดสายไฟขาดจากแรงสั่นสะเทือน ไฟช๊อต ไฟรั่ว หรือ มีสาเหตุมาจากการที่เปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทิ้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดไฟหน้า ไฟในรถ หรือไฟในส่วนอื่น ๆ ก็ส่งผลให้ระบบไฟฟ้ารถยนต์มีปัญหาได้

เมื่อทราบสาเหตุกันแล้ว เพื่อน ๆ ก็ควรดูแลรักษารถยนต์คู่ใจให้ดี หมั่นตรวจสภาพของชิ้นส่วนต่าง ๆ และมีการเปลี่ยนอะไหล่เมื่อครบกำหนดเวลา จะได้ไม่เกิดปัญหาหรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ภายหลังยังไงล่ะ


อยากซื้อรถยนต์ เข้าไปอัปเดตรถยนต์ใหม่ ราคาดี และซื้อขายสะดวกสบาย ที่ one2car.com
สนับสนุนบทความดี ๆ โดย Autospinn อย่าลืมติดตามเรื่องรถใหม่-รถมือสองก่อนใครที่นี่อย่าลืม ประกันรถยนต์ข้อเสนอพิเศษ เปรียบเทียบประกันรถยนต์ คลิกเลย ! Rabbit Care 


บทความที่เกี่ยวข้อง


บทความแคร์ยานยนต์

แคร์ยานยนต์

กระจกรถร้าว อันตรายไหม ระหว่างซ่อมกับเปลี่ยนใหม่ แบบไหนดีกว่า

โอกาสเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ โดยเฉพาะในเรื่องกระจกรถร้าว ที่เราอาจคิดว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวอย่างมาก แต่พอถึงเวลาจริง
Thirakan T
23/04/2024

แคร์ยานยนต์

แนะนำวิธีเลือกมอเตอร์ไซค์ผู้หญิงให้เหมาะสม พร้อมสรุปรุ่นไหนน่าสนใจ

แม้ปัจจุบันการเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์สักคันจะเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ผู้หญิงแล้ว ยังคงต้องใช้การตัดสินใจที่ค่อนข้างละเอียด และรอบคอย
Thirakan T
22/04/2024

แคร์ยานยนต์

แต่งเครื่องยนต์ ให้แรงขึ้นทำได้จริงไหม ต้องแจ้งขนส่งหรือไม่

สายซิ่งอยากแต่งเครื่องยนต์ให้แรงขึ้นแบบจี๊ดจัด สามารถทำได้จริงแน่นอน เพียงแต่อาจมีบางสิ่งที่เราควรรู้ก่อนตัดสินใจพารถคู่ใจของเราไปทำการ
Thirakan T
22/04/2024