ขนมยังมีวันหมดอายุ นับประสาอะไรกับพรบ รถยนต์ หรือประกันรถยนต์ที่เราใช้คุ้มครองความเสี่ยงบนถนนในแต่ละวัน คนใช้รถใช้ถนนย่อมรู้กันดีว่า นอกจากจะต้องต่อประกันรถยนต์ ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ก็ต้องเสียภาษีรถยนต์ประจำปีเหมือนกัน (ไม่ต่างอะไรกับเสียภาษีเงินได้ประจำปี)
และพอถึงเวลาที่ต้องต่อประกันรถยนต์ น่าจะเกิดคำถามในใจว่า รอบต่อไปใช้ประกันชั้น 1 อีกสักทีดีไหม? ที่คิดกันแบบนี้อาจเป็นเพราะ ใน 1 ปีที่ผ่านมา เจ้าของประกันรถยนต์ ไม่เคยขับรถชนใคร ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เรียกได้ว่ามั่นใจในฝืมือการขับรถของตัวเองสุดๆ แต่จงอย่าลืมว่า อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่เลือกสถานที่และเวลา
ใครเลยจะรู้ว่า คนเมาแล้วขับ อาจจะมาสอยท้ายรถของเราตอนไหนก็ได้ อีกทั้งตอนที่ได้รถมายิ่งเป็น รถป้ายแดงที่มักได้ประกันรถยนต์ชั้น 1 มาใช้ เพราะประกันสมัครใจประเภท 1 คุ้มครองอย่างครอบคลุมทุกกรณี เลยเกิดคำถามที่ว่า จะต่อประกันชั้น 1 ต่อไปดีไหมนี่?
สิ่งที่ใช้ตัดสินใจว่าจะเลือกประกันรถชั้น 1 ต่อไปคือ
อย่างที่บอกไปว่าประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มครองทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็น นักขับรถมือใหม่เลยเหมาะสมกับประกันสมัครใจประเภท 1 มากกว่าประกันประเภท 3 เพราะไม่รู้ว่าจะไปซุ่มซ่ามขับชนอะไรบ้างในการขับรถ แต่ถ้าเป็นคนมีทักษะ หรือช่ำชองในการขับรถมากพอสมควร ก็อาจเปลี่ยนไปใช้ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันภัยรถยนต์ชั้น3 ก็ยังได้
จะต่อประกันชั้น 1 อีกดีไหม ใช้ทักษะการขับรถเป็นตัวตัดสินคงไม่เพียงพอ นิสัยการใช้รถของเราก็เป็นส่วนตัดสินใจดีเหมือนกัน ถ้าเราขับรถในเส้นทางเดิมๆ ทุกวัน ไม่ไกลบ้านมากเท่าไหร่ ขับบ่อย ชินทาง อาจจะเปลี่ยนไปใช้ประกันชั้น 3 แทนก็ได้ หรือเลือกใช้ประกันชั้น 1 ที่มีค่าเสียหายส่วนแรก ก็จะช่วยประหยัดเบี้ยประกันรถยนต์ลงได้มากกว่าเดิม
-
ความคุ้มค่าที่อยากได้จากบริษัทประกัน
นอกจากเบี้ยประกันรถยนต์ที่อยากจ่ายให้ถูกลง ความคุ้มครองที่ดีใครๆ ก็อยากได้ แต่ก็ต้องทำใจเอาไว้ว่า ประกันรถจะให้ความคุ้มครองลดหลั่นกันไปตามประเภทของประกันภัย
สมมติว่า
รถของคุณใช้บริการ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 แต่รถประสานงากับรถอีกคัน สิ่งที่ทำได้ก็คือ เราต้องออกเงินซ่อมรถเราเอง ต่างจากประกันชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองทุกรณี
สรุปได้ว่า ถ้าคนทำประกันรถยนต์ อยากได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าจากบริษัทประกัน ก็ควรใช้การใช้งานรถ หรือ ทักษะการขับรถของเราเป็นตัววัด เพราะประกันรถยนต์ปีต่อไป ไม่จำเป็นต้องใช้ประกันชั้น 1 เสมอไป ถ้าคิดว่าขับรถคล่อง หรือ ไม่เกิดอุบัติเหตุแน่ๆ ก็เปลี่ยนประเภทประกันได้ตามความสบายใจเลย
นอกจาก รถชนกันยังทำให้เสียเวลา ทำให้เสียอารมณ์อยู่แล้ว ถ้าโดนชนแล้วหนี น่าจะเรียกได้ว่าระเบิดได้ลงกลางสี่แยกตรงนั้นเป็นแน่แท้ เพราะถ้าเราทำประกันชั้น 3 ความคุ้มครองที่ถูกมอบให้บริษัทประกันอะไรก็ตาม น่าจะไม่คุ้มครอง เพราะรอยบนรถ หรือความเสียหายบนรถของเราไม่มีคู่กรณีมารับผิดชอบ สุดท้ายก็ต้องควักเนื้อตัวเองไปตามระเบียบ แต่ไม่เป็นอะไร ประกันชั้น 1 จะคอยเป็นประกันคุ้มภัย
รถส่วนใหญ่ที่ชอบชนแล้วหนี เพราะว่า
- ไม่มีใบขับขี่
- ไม่อยากรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำ
- รีบมาก โชคดีนะเพื่อน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลร้อยพันแปดอะไรก็ตาม ในทางกฎหมายนั้น การชนแล้วหนี การไม่แสดงตัวต่อที่เกิดเหตุโดยทันที ซึ่ง กฎหมายจราจร พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มีการกำหนดโทษไว้ว่า
มาตรา 160 “ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 78 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
สมมติว่า
ขับรถอยู่ดีๆ แล้วพบว่ารถแสนรักของเราโดนชนแล้วหนี ก็คงจะสติแตกกันจ้าละหวั่น ไม่รู้จะต้องทำอะไรก่อนดี สิ่งแรกก็ควรตั้งสติให้ดี เพื่อจดจำรายละเอียดรถคู่กรณีให้ไวมากที่สุด แล้วค่อยโทรเรียกบริษัทประกัน เพื่อใช้ความคุ้มครองประกันชั้น 1 ให้เต็มที่ ที่บอกว่าให้จำรายละเอียดให้ดี เพราะว่า
การชนแล้วหนี มี 2 กรณี ได้แก่
ในส่วนตรงนี้ คนถือประกันชั้น 1 คงจะสงสัยว่าประกันรถยนต์สมัครใจ ประเภท 1 คือ ประกันคุ้มภัยที่ดีที่สุด แต่ทำไมต้องชนแล้วหนี แล้วไม่มีคู่กรณี ทำไมไม่คุ้มครองแบบครอบคลุม คำตอบคือ เราสามารถแจ้งเคลมประกันรถชั้น 1 กับบริษัทประกันได้เลย
แต่ถ้าเรียก เคลมประกันรถ แล้วไม่มีคู่กรณี เจ้าของประกันรถอย่างพวกเราต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมอย่าง ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) หรือเป็นค่าความเสียหายส่วนแรกที่เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคว่ำ หรือค่าเสียหายจากการชนกันแบบไม่มีคู่กรณี ต่อให้ถือประกันชั้น 1 จากบริษัทประกันคุ้มภัย ก็ต้องจ่ายเงินราวๆ 1,000 ต่อ 1 ครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ
ไม่ว่าจะจอดรถทิ้งเอาไว้ข้างฟุตบาท หรือ ลานจอดรถ หรือขับรถอยู่บนถนนแบบปกติ แล้วโดนชน ถ้าเจอคนมีความรับผิดชอบ รถคู่กรณีอาจชะลอหรือจอดข้างทางเพื่อรอบริษัทประกันมาจัดการ หรือหากมีกล้องหน้ารถ ที่บันทึกเลขทะเบียน ยี่ห้อรถยนต์ รุ่นรถยนต์ไว้ หมายความว่า เรามีหลักฐานในมือแล้ว ถ้าถือประกันชั้น 1 ที่เป็นประกันคุ้มภัยชั้นดี ก็ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกแล้ว
เพราะบริษัทประกันภัยจะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการอายัดทะเบียนรถยนต์คู่กรณีที่ชนแล้วหนีไป การชนแล้วหนีมีความผิดอย่างที่กล่าวไปข้างต้น หมายความว่า รถคู่กรณีหมดสิทธิ์ในการต่อทะเบียนรถยนต์ หรือทำนิติกรรมจนกว่าจะชำระค่าปรับเท่านั้น
ประกันรถยนต์ประเภท 1 เรียกได้ว่าเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองที่สูงสุดที่สุด เมื่อลองเปรียบเทียบกับประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ แน่นอนว่าเบี้ยประกันรถชั้น 1 ย่อมแพงมากกว่าใครเพื่อน แน่นอนว่าเมื่อ เบี้ยประกันรถยนต์ถูก ความคุ้มครองก็จะน้อย ถ้าเบี้ยประกันแพงความคุ้มครองก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว
หลายคนจึงเทคะแนนให้ประกันชั้น 1 ไปโดยปริยาย เพราะ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองทุกกรณี ไม่ว่าจะ
- กระจกรถแตก
- น้ำท่วมรถ
- ไฟไหม้รถ
- รถโดนขโมย
- รถเราถูกชน
- เราไปชนรถเขา
ประกันชั้น 1 ก็จะให้ความคุ้มครองทุกกรณี ยิ่งถ้าซื้อ ประกันรถยนต์กับโบรกเกอร์ประกันรถออนไลน์ มักจะมีบริการเสริมมาด้วยเสมอ เช่น เลขาส่วนตัวคอยช่วยฉุกเฉิน ถ้าเกิดว่ารถเสียกลางทาง ไม่ต้องไปเรียกรถยกรถลากให้เสียเวลา แต่อย่าเพิ่งใจด่วนใจร้อนกันเกินไป เพราะประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ชั้น 1 ไม่ได้คุ้มครองทุกกรณี
อ่านถึงตรงนี้ ถ้าเป็นคนที่รู้มาก่อนก็คงจะคิดในใจว่า ไม่ลองอ่านกรมธรรม์ให้ดีซะล่ะ แต่ถ้าเป็นคนไม่รู้ คงวิ่งโร่ไปพลิกกรมธรรม์ประกันรถชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3 ฯลฯ อย่างจ้าละหวั่น ไหนบอกว่าประกันรถยนต์ คือ ประกันคุ้มภัยรถยนต์ชั้นดียังไงล่ะ แม้กระทั่งประกันชั้น 1 ที่ดีที่สุดก็มีเงื่อนไขนี้ด้วยเหรอ คำตอบคือมี ซึ่งได้แก่
ประกันชั้น 1 กับการยกเว้นทั่วไป
กรมธรรม์ประกันภัยนี้ จะไม่คุ้มครองความเสียหาย หรือความรับผิดอันเกิดขึ้นเป็นผลโดยตรงหรือโดยอ้อมจาก...
ภาวะสงครามที่เต็มไปด้วยรอยกระสุน ระเบิดไฟ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นสงคราม ถูกอาวุธปรมาณู การแผ่รังสีที่แตกประจุ
การแข็งข้อของทหาร การต่อต้านรัฐบาล การปฏิวัติ การกบฎ การยึดอำนาจการปกครองโดยทหารหรือประการอื่น ประชาชนก่อความวุ่นวาย ลุกฮือต่อต้านรัฐบาล
หากคุณมีการนำรถไปใช้งานในต่างประเทศ เช่น ขับรถไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนนี้ประกันชั้น 1 จะไม่ให้ความคุ้มครอง
ประกันชั้น 1 จะไม่ครอบคลุมในกรณีที่ คุณนำรถไปใช้ ดังนี้ ขับรถแข่ง ทางบริษัทประกันจะถือว่าเป็นข้อยกเว้น เพราะถือว่าใช้รถผิดประเภท รวมไปถึงการเมาแล้วขับอีกด้วย
จะเห็นได้ว่า ประกันชั้น 1 ถึงแม้จะมีเบี้ยประกันรถยนต์สูงที่สุด เรียกได้ว่าเป็นประกันคุ้มภัยที่ดีที่สุด แต่ถ้านำรถไปใช้สุ่มเสี่ยง หรือใช้ตามข้อยกเว้นทั่วไปในกรมธรรม์ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ไม่ให้ความคุ้มครองหรอกนะ
ถ้าเป็นรถใหม่ป้ายแดง หรือรถที่เพิ่งมีอายุได้ไม่มากนัก มักนิยมใช้หรือมาพร้อมกับประกันชั้น 1 อยู่แล้ว เพราะรถใหม่ย่อมอยากได้ความคุ้มครองที่มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะไหนจะต้องผ่อนรถไปจนกว่าจะหมด ค่าจิปาถะต่างๆ ของรถ การมีประกันชั้น 1 นี่แหละจะเป็นประกันคุ้มภัย คอยลดความเสี่ยงให้เอง
ยิ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทุกวัน แปปๆ ก็เอี๊ยดโครม ! เอะอะก็ใจร้อน ทำผิดกฎหมายจราจร ขับรถฝ่าไฟแดงบ้าง ฯลฯ คนใช้รถหลายคนเริ่มวิตกกังวลว่าถ้าเกิดรถชนขึ้นมาจะรับมือไหวไหม ไหนจะความเสี่ยงของชีวิต ไหนจะความเสี่ยงของรถ ถ้าเป็นรถที่ใช้ประกันมือ 1 ก็หมดห่วงไปได้มากหน่อย
ใช่ว่ารถทุกคันจะเป็นรถใหม่ซะเมื่อไหร่ บางคันเป็น รถมือสองที่ซื้อต่อมาอีกทีหนึ่ง บางคันก็เป็นรถมรดกตกทอดที่ทำการ โอนเล่มทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ใครๆ ก็อยากได้ความคุ้มครองที่คลุมไปทุกเรื่องแบบประกันชั้น 1 แต่เรื่องมันติดอยู่ที่ว่า ประกันรถยนต์สมัครใจชั้น 1 ที่จะเป็นประกันคุ้มภัย ไม่รับรถเก่านี่สิ
ประกันชั้น 1 รับประกันรถอายุกี่ปี
สำหรับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จะให้คำตอบว่า “การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อให้เป็นประกันคุ้มภัยบนถนน ไม่มีการจำกัดอายุรถ ขึ้นอยู่กับคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายว่าตกลงจะรับประกันรถยนต์หรือไม่” หมายความว่า เจ้าของรถ และบริษัทประกันต้องตกลงกันเอง
ถ้าเป็นรถยนต์ที่กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ก็คงไม่ใช่เรื่องหนักใจเท่าไหร่ ยังสามารถใช้ความคุ้มครองจากประกันชั้น 1 ได้ แต่ถ้า รถยนต์ของคุณก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 น่าจะเริ่มหวั่นใจเพราะบริษัทประกันส่วนใหญ่มักมีเงื่อนไขกำกับเอาไว้ว่า ไม่รับรถที่มีอายุเกิน 7 ปี แต่ในความเป็นจริงๆนั้น
แม้ว่ารถของคุณจะมีอายุการใช้งานมากกว่า 7 ปี ก็สามารถทำประกันชั้น1ได้ ถ้ารถยนต์ของคุณตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้
เงื่อนไขประกันชั้น 1 สำหรับรถที่มีอายุมากกว่า 7 ปี
- อยู่ในสภาพใช้งานได้ 100%
- สามารถหาอะไหล่ หรืออู่ซ่อมรถยนต์ได้ง่ายๆ
- ไม่มีประวัติการเคลมที่เกินจริง
- มีประวัติการขับรถที่ดี
หากรถยนต์ของคุณมีอายุการใข้งานมากกว่า 7 ปี แต่สภาพการใช้งานยังตรงตามเงื่อนไขที่เรากล่าวมา คุณก็สบายใจได้เลยว่า รถยนต์คันโปรดของคุณสามารถทำประกันชั้น 1 ได้อย่างแน่นอน
ที่บริษัทประกัยภัยรถยนต์แต่ละแห่ง มีการกำหนดเงื่อนไขก็เพราะว่า ไม่ว่าคุณจะทำประกันภัยรถยนต์ประเภทใด จะเป็น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 บริษัทประกันก็มักจะพิจารณาจาก
- รุ่นรถ ปีรถ
- ประวัติการเคลม
- ประวัติผู้ทำประกัน
เพื่อประกอบการพิจารณาทั้งสิ้น และถ้ารถยนต์ของเรายังสามารถใช้งานได้ดี ไม่มีประวัติการเคลมที่มากจนเกินไป ก็ยังมีสิทธิ์ใช้งานประกันชั้น 1 ได้นั่นเอง
บริษัทประกันภัยในประเทศไทยมีมากกว่า 30 บริษัทให้ผู้เอาประกันได้เลือกใช้ตามใจชอบ ซึ่ง บริษัท ประกันคุ้มภัย ก็เป็นหนึ่งใน 30 บริษัทจากที่กล่าวมา ซึ่งประกันคุ้มภัย เป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่เรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจในประเทศไทยบริษัทแรกๆ เลยก็ว่าได้ เพราะวันที่จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทคือ
วันที่ 12 กันยายน 2484 นับดูดีๆ คุ้มภัยประกันภัยกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 76 ให้แล้ว
อีกทั้ง rabbit finance ผู้เป็นโบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์ บริษัทในเครือของ BTS หนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้จับมือร่วมกับ บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) เป็นพันธมิตรเพื่อสร้างประกันวินาศภัยให้ผู้เอาประกันภัยทุกคนได้เลือกใช้ บอกได้เลยว่า เบี้ยประกันรถยนต์ราคาประหยัดอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
ทำไมต้องวางใจบริษัท ประกันคุ้มภัย และ rabbit finance
ด้วยประสบการณ์การทำงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชี่ยวชาญมาอย่างยาวในระยะเวลา 76 ปี จงมั่นใจได้เลยว่า คุ้มภัยประกันภัยจะเข้าใจถึงบริบทของคนในประเทศ และความต้องการของผู้บริโภคอย่างแน่นอน พวกกับพันธมิตรดีๆ จาก rabbit finance ทำให้เราเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร
อีกทั้งอู่ซ่อมรถยนต์ทั่วประเทศ ที่คอยรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินบนถนน 24 ชั่วโมง เปรียบเสมือนเลขาส่วนตัวที่คอยไกล่เกลี่ยความวุ่นวายให้คุณ เพราะ คุ้มภัยประกันภัยมีอู่ซ่อม หรือศูนย์ซ่อมทั่วประเทศไทย ในหลายๆ จังหวัด ไม่ต้องเสาะหา หรือหนักใจกับการซ่อมรถคู่ใจของคุณเลยแม้แต่น้อย
-
ประกันภัยรถยนต์ที่ดีที่สุด
อีกทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่เรียกได้ว่าเป็นประกันคุ้มภัยบนถนนที่ดีที่สุดจากบริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) จะให้ความคุ้มครองในทุกด้านเท่าที่จะเป็นได้ ไม่ว่าจะเป็น
- การรับผิดชอบต่อทรัพย์สิน ชีวิต ร่างกาย และอนามัยของบุคคลภายนอก คู่กรณี รวมไปถึงฝ่ายผู้เอาประกันก็ด้วย
- รถกระจกแตก
- รถชนไม่มีคู่กรณี
- น้ำท่วม
ประกันรถชั้น 1 จากคุ้มภัยประกันภัยก็ไม่เคยละเลย
อย่างไรก็ตาม ใครๆ ก็อยากให้รถแสนรักของตัวเอง มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด ซึ่งประกันรถชั้น 1 จะเป็นประกันคุ้มภัยที่ดีที่สุดบนท้องถนน แต่ก็ยังมีข้อห้ามหรือเงื่อนไขหากนำรถของตัวเองเข้าไปในพื้นที่อันตราย ถ้าคิดว่าเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 มันแพง ก็ลองคิดถึงเวลาที่ต้องซ่อม อาจจะต้องควักเงินตัวเองทั้งหมดที่มีอยู่ออกมาใช้ก็ได้ จะดีกว่าไหม ถ้าเลือกใช้ประกันชั้น 1 ของ บริษัท ประกันคุ้มภัย จาก rabbit finance ที่เปรียบเสมือนเลขาส่วนตัวคอยดูแลเวลาที่คุณเดือดร้อน