ประกันภัยรถยนต์
ประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อายุน้อย
เปรียบเทียบง่ายในที่เดียว
ราคาเริ่มต้น 1,899 บาทต่อปี
ข้อมูลส่วนตัวของท่านปลอดภัยแน่นอน
เลือกผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน หรือ เลือกชำระสดลดทันที 8%
ฟรี! กล้องติดรถยนต์ หรือ บัตรเติมน้ำมัน ปตท.มูลค่ารวมกว่า 2,000 บาท*
พิเศษช่วยเหลือบนถนน 24 ชม. พร้อมดาวโหลดฟรี Prompt แอปพลิเคชั่น ที่ App Store และ Play Store
ทุกวันนี้ การมีรถเป็นของตัวเองสักคันหนึ่งสามารถทำได้ง่ายมาก เพราะการแข่งขันทางธุรกิจ ทำให้มีรถออกมาใหม่บนท้องถนนเพิ่มมากขึ้น แถมยังมีโปรโมชั่นส่วนลดมากมายผ่อนได้อีกหลายบาทมายั่วยวน แต่พอซื้อรถแล้วมันไม่จบแค่นั้นน่ะสิ เพราะยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการดูแลรักษารถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นค่าตรวจเช็ค ค่าซ่อมบำรุงหรือแม้กระทั่ง การทำประกันภัย
หลายๆ ท่านอาจจะพอทราบบ้างแล้วว่าเรา ทำประกันภัยรถยนต์ไปเพื่ออะไร แต่อาจจะยังไม่เข้าใจว่าประกันแต่ละประเภทคุ้มครองอะไรบ้าง ดังนั้นเราจะมาทำความรู้จักกับประกันภัยรถยนต์ให้ถ่องแท้กันเลยดีกว่า
ประกันภัยรถยนต์จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประกันรถยนต์ภาคบังคับ และ ภาคสมัครใจ ซึ่งประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ก็มีให้ผู้ใช้รถเลือกอีกทั้งหมด 5 ประเภทด้วยกัน คือ ประเภท 1 , 2 , 2+, 3 และ 3+ โดยแต่ละประเภทมีความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนี้
เป็นประกันภัยภาคสมัครใจที่ได้รับความนิยมที่สุด เพราะเป็นประกันภัยที่ใปห้ความคุ้มครองความเสียหายต่อยานพาหนะ ครอบคลุมทั้งฝั่งผู้เอาประกันและฝั่งคู่กรณี ความบาดเจ็บทางร่างกาย ความเสียหายจากไฟไหม้ โจรกรรมหรือภัยธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังคุ้มครองไปถึงความเสียหายต่อกระจกรถและค่าใช้จ่ายในการลากจูงอีกต่างหาก เรียกได้ว่าไม่มีประกันภัยชั้นไหน ที่ดีไปกว่าประกันชั้น 1 อีกแล้วละ
เป็นประกันภัยที่คุ้มครองชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี รวมถึงคุ้มครองความสูญหายและเหตุไฟไหม้รถของผู้เอาประกันภัย
เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองคล้ายกับประเภท 1 แต่จะไม่คุ้มครองยานพาหนะของผู้เอาประกันหากไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนกำแพงลานจอดรถ
เป็นประกันภัยที่คุ้มครองเฉพาะชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี
เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองชีวิตร่างกายและทรัพย์สินคู่กรณี รวมถึงการชนยานพาหนะทางบกของรถผู้เอาประกันภัย แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้และโจรกรรม
อย่างไรก็ตามการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนั้น ไม่ได้ถูกบังคับตามกฎหมาย ผู้เป็นเจ้าของรถสามารถเลือกที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้ เนื่องจากมีราคาเบี้ยสูงกว่าประกันรถยนต์ภาคบังคับ แต่ในขณะเดียวกันประกันรถยนต์ภาคสมัครใจก็ให้ความคุ้มครองที่มากกว่าและมีความหลากหลายมากกว่า ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าเช่นเดียวกัน
ซึ่งนอกจากประกันภัยรถยนต์ทั้ง 5 ประเภทที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับอยู่อีกด้วย แต่จะเป็นประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองแบบไหนนั้นมาตามกันในหน้าต่อไปนะคะ
การประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับ จะเหมาะสำหรับรถที่มีผู้ขับขี่ประจำไม่เกิน 2 คน ซึ่งต้องระบุชื่อและอายุของผู้ขับขี่ลงไป โดยเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายในแต่ละปีจะลดลงจากราคาปกติ 5-20% ตามช่วงอายุของผู้ขับขี่ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า หากอธิบายแบบนี้หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจ งั้นเรามาดูตัวอย่างกันดีกว่านะคะ
ตัวอย่างเช่น บริษัทประกันภัย จะให้ส่วนลดเบี้ยประกันเท่ากับส่วนลดของผู้ที่มีอายุน้อยที่สุด เช่น ระบุชื่อผู้ขับขี่เป็นลูกอายุ 25 ปี และพ่ออายุ 50 ปี ส่วนลดเบี้ยที่ได้รับจะเท่ากับ 10% นั่นเอง
การทำประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่ จะให้ความคุ้มครองรถยนต์ที่มีการระบุชื่อผู้ขับขี่ลงในกรมธรรม์ประกันภัย โดยผู้เอาประกันภัยสามารถระบุชื่อผู้รับความคุ้มครองได้ถึง 2 คน หรือพูดง่ายๆ ว่าผู้ที่มีชื่อระบุอยู่ในกรมธรรม์เท่านั้น ถึงจะมีสิทธิเรียกเคลมได้นั่นเอง
แต่การประกันภัยแบบนี้จะต้องเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถโดยสารที่ผู้ขับขี่ประจำไม่เกิน 2 คนเท่านั้น ซึ่งเบี้ยประกันภัยที่ต้องจ่ายในแต่ละปีก็จะลดลงตาม ช่วงอายุของผู้ขับขี่ ดังนี้
อย่างไรก็ตามหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว ผู้ขับขี่ไม่ใช่บุคคลที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์และดันเป็นฝ่ายที่ผิดอีก รวมถึงกรณีที่ไม่สามารถแจ้งคู่กรณีได้ ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก 6,000 บาทต่อความเสียหายตัวรถและ 2,000 บาทต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก แต่ในกรณีที่เป็นฝ่ายถูกผู้เอาประกันไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกนะคะ
หากพูดถึง มือใหม่หัดขับ หลายคนคงคิดไม่ตกกันเลยทีเดียว กับการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ที่จะมาคุ้มครองรถสุดรักสุดหวงของคุณ วันนี้ rabbit finance จึงมี 5 เรื่องเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ ที่มือใหม่ควรทำความเข้าใจกันก่อนค่ะ
แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท คือ ประเภท 1, 2+, 3+, 2 และ 3 ซึ่งทั้ง 5 ประเภทต่างกันที่เงื่อนไขความคุ้มครอง โดย ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 คือ ประเภทที่มีความคุ้มครองสูงสุดหรือครอบคลุมเหนือกว่าประกันภัยทุกประเภท เช่น คุ้มครองทั้งรถคู่กรณีและรถเรา คุ้มครองกรณีรถหาย ประสบเหตุไฟไหม้หรือน้ำท่วม เป็นต้น
หมายถึง วงเงินคุ้มครองสูงสุดที่บริษัทประกันภัยจะจ่ายให้กับเจ้าของรถ เมื่อเกิดกรณีที่รถมีความเสียหายหนักจนไม่สามารถซ่อมได้ หรือในกรณีที่รถหายบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงิน เพื่อเป็นการรับผิดชอบตามทุนประกันที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์
คือ ค่าใช้จ่ายที่ผู้ขับขี่ตกลงกับบริษัทประกันภัยว่าจะรับผิดชอบร่วมกันหรือไม่ ซึ่งค่าเสียหายส่วนแรกมีผลต่อค่าเบี้ยด้วย หากผู้ขับขี่ยินดีที่จะร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก ค่าเบี้ยก็จะถูกลง ในทางตรงกันข้ามถ้าผู้ขับขี่ไม่ต้องการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกค่าเบี้ยก็จะสูงขึ้น
ในกรณีที่มีการใช้รถเพียงคนเดียวหรือไม่เกิน 2 คน การระบุชื่อผู้ขับในกรมธรรม์จะช่วยลดค่าเบี้ยลงได้ โดยผู้ขับแต่ละคนจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ หากอายุ 18 – 24 ปี ได้รับส่วนลด 5% อายุ 25 – 35 ปี ได้รับส่วนลด 10% อายุ 36 – 50 ปี ได้รับส่วนลด 20% และอายุ 50 ปีขึ้นไป ได้รับส่วนลด 15%
ในการใช้รถระหว่างปีหากไม่เกิดอุบัติเหตุเลย นอกจากจะดีกับชีวิตและทรัพย์สินของผู้ขับเองแล้ว ยังช่วยลดค่าเบี้ยปีต่อไปลงได้อีกด้วย ในการให้ส่วนลดประวัติดีจะเริ่มต้นที่ 20% และเพิ่มขึ้นทุกปีตามลำดับดังนี้
อีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ซื้อประกันภัยควรรู้ คือ นอกเหนือจากประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ 5 ประเภทนี้แล้ว ยังมีประกันภัยรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยอีกด้วย ไม่คุ้นหูเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่ไม่ต้องสงสัยกันนาน เราไปหาคำตอบในหน้าต่อไปกันเลยค่ะ
“การประกันภัยรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อย” หลายคนได้ยินแบบนี้แล้วอาจจะงง เพราะประกันภัยรูปแบบนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในประเทศไทย แต่ตรงกันข้าม ในต่างประเทศการประกันภัยแบบนี้เป็นที่แพร่หลายมากพอสมควร โดยเฉพาะวัยรุ่นหนุ่มสาวที่มีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุมากกว่าในวัยอื่นๆ อีกทั้งยังเป็น ประกันที่มีราคาถูก อีกด้วย
หากคุณเป็นมือใหม่หัดขับ อายุยังน้อย เราขอแนะนำให้คุณ หลีกเลี่ยงการปรับแต่งรถจะดีกว่า ไม่ว่าคุณจะอยากให้รถของคุณเจ๋งขึ้น สวยขึ้น เร็วขึ้นหรือเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ ให้แก่รถ เพราะมิฉะนั้นค่าเบี้ยที่คุณต้องจ่ายอาจจะสูงปรี๊ดเลยทีเดียว
เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการขับรถทั้งคุณและผู้ขับขี่บนท้องถนน เพราะเมื่อไหร่ที่รถคุณเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา คุณจะได้นำภาพในกล้องติดรถยนต์ไปให้บริษัทประกันดู หรือพูดง่ายๆ ว่า เป็นหลักฐานในการเรียกร้องเงินจากบริษัทประกันภัยนั่นเอง
การจ่ายเบี้ยประกันภัยรถยนต์ต่อปี ถึงจะแพงกว่าการจ่ายเบี้ยประกันต่อเดือนก็จริง แต่เมื่อเฉลี่ยแล้ว หากคุณสามารถเก็บเงินและเลือกจ่ายต่อปีได้ คุณก็จะสามารถหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียม หรือดอกเบี้ยรายเดือนได้จำนวนมหาศาลเลยนะ
ถึงแม้ว่าคุณจะซื้อ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ครอบคลุมทุกอย่างแล้วก็ตาม คุณก็ไม่ควรประมาทเด็ดขาด เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ คุณควรเลือกที่จะลดความเสี่ยงด้วยการเพิ่มคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยรถแบบพิเศษ เช่น การติดตั้งระบบเตือนภัยหรือเลือกจอดรถในโรงรถแทนที่จะจอดด้านนอกข้างถนน
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแค่เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เพราะการประกันภัยยังมีอีกหลายปัจจัยให้คุณได้เลือกและพิจารณากัน แต่ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะเลือกประกันแบบไหนดีหรือไม่มีใครให้ปรึกษา ก็อย่าลืมนึกถึง rabbit finance เป็นอันดับแรกนะคะ
rabbit finance พร้อมที่จะเป็นเพื่อนคู่คิดให้แก่คุณเสมอ เมื่อไหร่ที่คุณมีคำถามเกี่ยวกับประกันภัย ผู้เชี่ยวชาญของเราก็พร้อมจะไขข้อสงสัยให้แก่คุณ นอกจากนี้เรายังเลือกใช้ระบบ Omise ที่เป็นระบบมาตรฐานสากล เพื่อเป็นตัวช่วยป้องกันให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไม่รั่วไหลอีกด้วย สบายใจได้เลยค่ะ
เงื่อนไขการรับส่วนลดเป็นไปตามที่ rabbit finance กำหนด
ข้อมูลส่วนตัวของท่านปลอดภัยแน่นอน