Satit Bilingual School
of Rangsit University
สอนด้วยหลักสูตรมาตรฐาน Cambridge
ให้ลูกคุณพร้อมต่อยอดสู่มหาวิทยาลัยระดับโลก
ข้อมูลส่วนตัวของท่านปลอดภัยแน่นอน
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต (Satit Bilingual School of Rangsit University) เป็นสถาบันการศึกษาที่อยู่ในความดูแลของ ดร. อภิรมน อุไรรัตน์ เป็นสถาบันการศึกษาที่ให้บริการการเรียนการสอน ในระดับชั้นอนุบาล, ประถมศึกษา และระดับชั้นมัธยมศึกษา โดยจะเน้นการเรียนเรียนรู้แบบองค์รวมและการเรียนรู้ภาษา พร้อมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตในอนาคต สามารถนำวิชาความรู้ไปต่อยอดในการประกอบวิชาชีพได้ทั้งในประเทศและนอกประเทศ
ด้วยห้องเรียนที่มีความทันสมัย มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่จะสนับสนุนการเรียนรู้ได้อย่างครบครัน พร้อมด้วยคณะครูผู้สอนที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน สามารถถ่ายทอดความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นในด้านวิชาการ พร้อมทั้งมุ่งเน้นในด้านกีฬาและวิทยาศาสตร์ เพื่อสนับสนุนทุกความสนใจของผู้เรียน ซึ่งโรงเรียนนานาชาติ ย่านปทุมธานี อย่างโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิตนั้นเป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทยอีกสถาบันหนึ่ง ที่สามารถส่งเสริมผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถในด้านวิชาความรู้พร้อมทั้งทักษะการสื่อสารแบบสองภาษา รับประกันได้ว่านักเรียนทุกคนจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อส่งเสริมและต่อยอดอนาคตได้อย่างมีคุณภาพ หากผู้ปกครองท่านใดที่กำลังมองหาโรงเรียนอินเตอร์ย่านรังสิต เพื่อส่งบุตรหลานไปเข้ารับการศึกษา โรงเรียนนานาชาติแห่งนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ในหลาย ๆ ด้าน
วัตถุประสงค์ของการมาศึกษาที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต คือการสร้างและรักษาความเป็นผู้ใฝ่รู้ รักการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย
Satit Bilingual School of Rangsit University (SBS) เป็นโรงเรียนสองภาษาย่านรังสิต ที่มอบสภาพแวดล้อมที่เอาใจใส่ผู้เรียน ให้รู้สึกปลอดภัยและมีความเป็นกันเอง พยายามส่งเสริมให้คิดแบบนอกกรอบในทุกหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อเรียนรู้ผ่านการทดลองทำมากกว่าการท่องจำข้อมูล
ระบบการดูแลของ SBS จะให้ความดูแลนักเรียนแบบครอบครัว เรามีความมุ่งมั่นที่จะหล่อหลอมให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบ มีความสุขในการใช้ชีวิต ไปพร้อมกับสมดุลในเรื่องของการเรียนรู้ เสมือนนักเรียนเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว
เพราะโลกของเรามีความหลากหลาย โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต จึงไม่ละเลยที่จะสอนให้นักเรียนได้มีความเข้าใจและยอมรับในความหลากหลาย มีความใจกว้าง เข้าใจผู้อื่น เพื่อให้นักเรียนมีความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในโลกในอนาคตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง พร้อมกันนี้ทางโรงเรียนก็ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันยุคสมัยอยู่เสมอ
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต จะช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้การใช้ภาษาต่างประเทศอย่างแท้จริง พัฒนาทักษะการสื่อสารแบบสองภาษา และเพิ่มโอกาสในการต่อยอดการเรียนรู้ของนักเรียนในอนาคต
หลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละขั้นของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต เป็นไปตามข้อกำหนดของกระทรวงศึกษาธิการแห่งประเทศไทย ในขณะเดียวกันก็มีการเรียนการสอนในหลักสูตรเคมบริดจ์ ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รวมถึง IGCSE และ AS-Level โดยหลักสูตรแต่ละขั้นนี้ จะช่วยพัฒนาความรู้ความสามารถให้นักเรียนสามารถเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยระดับประเทศและระดับนานาชาติได้ เป็นหนึ่งในโรงเรียนนานาชาติในปทุมธานี ที่ถือว่ามีมาตรฐาน และเชื่อมั่นในคุณภาพการศึกษาอย่างแน่นอน
นอกจากคุณภาพในด้านวิชาการแล้ว โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต (Satit Bilingual School of Rangsit University) ยังใส่ใจปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อเสริมสร้างให้ผู้เรียนมีความพร้อมในการศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ อย่างเช่นสภาพแวดล้อมของโรงเรียน ที่มีส่วนเป็นอย่างมากในการเสริมสร้างพัฒนาของตัวนักเรียน รวมทั้งเรื่องของสุขภาพจิตใจด้วย โดยกระทรวงศึกษาธิการ (2539) ได้กล่าวถึงการจัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ที่ดี ทั้งสถาบันการศึกษาแบบทั่วไปรวมทั้งโรงเรียนนานาชาติ คือ
สถานที่ต่าง ๆ ภายในโรงเรียน เช่น อาคารเรียน ห้องเรียน ห้องน้ำ ทางเดินในโรงเรียน ฯลฯ ต้องคำนึงถึงความร่มรื่น สวยงาม มีความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ รักษาความสะอาด และใช้วัสดุตกแต่งที่ไม่อันตรายเพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ
ควรจัดห้องเรียนให้มีบรรยากาศแปลกใหม่ เหมาะสมกับการดำเนินกิจกรรมในแต่ละรายวิชา และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการเรียนรู้ และเพิ่มการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเพื่อน และครูผู้สอน
นอกจากนี้ การจัดวางสื่อ-อุปกรณ์การเรียนการสอน ก็ควรจัดวางให้เป็นระบบระเบียบ ไม่กินพื้นที่ในห้องเรียนมากจนเกินไป และสื่อการเรียนรู้ควรให้โอกาสผู้เรียนได้ลองสัมผัส เรียนรู้ เพื่อกระตุ้นการคิดวิเคราะห์ การทดลอง การแก้ปัญหาระหว่างปฏิบัติจริง โดยผู้สอนควรจะศึกษาความต้องการของผู้เรียนว่าต้องการพัฒนาทักษะอย่างไร พร้อมทั้งคำนึงถึงหลักสูตรเนื้อหาวิชา เพื่อเลือกใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีเนื้อหาสอดคล้องกัน หรือเลือกใช้แหล่งธรรมชาติมาช่วยเป็นสื่อในการเรียนรู้ได้ก็จะเกิดผลดีมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ หากเป็นโรงเรียนสองภาษา ก็ควรจัดเตรียมสื่อการเรียนการสอนทั้งสองภาษาให้พร้อม เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มที่ทั้งสองภาษา
บุคลากรในโรงเรียนนั้นมีความสำคัญต่อการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะครูผู้สอน ถ้าครูผู้สอนมีลักษณะที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เข้าหาได้ง่าย ก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีในชั้นเรียน นักเรียนจะเรียนด้วยความสบายใจ กล้าซักถามและแสดงความคิดเห็นได้ ดังนั้น บุคลิกภาพและวิธีการควบคุมอารมณ์ของครูผู้สอนจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดี เหมาะกับการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่าง ๆ ในโรงเรียนก็มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างบรรยากาศในการเรียนการสอนด้วย โดยเฉพาะบุคลากรที่มีทัศนคติที่ดีต่อผู้เรียนและบทเรียน จะบริหารการเรียนการสอนให้ผู้เรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันได้ ในขณะเดียวกัน เพื่อนร่วมชั้นเรียน ก็มีส่วนช่วยในการสร้างบรรยากาศ และพัฒนาความคิด นิสัย ทัศนคติ และอารมณ์ของผู้เรียนได้
การนำเอาเทคโนโลยีและหลักการทางวิทยาศาสตร์มาปรับใช้ในการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน ได้แก่
ห้องเรียนที่มีแสงจ้ามากเกินไปจะทำให้เด็กขาดสมาธิในการเรียน ควรเลือกใช้ม่านหรือวัสดุอื่นมากันแสงให้มีความนุ่มนวลมากขึ้น หรือใช้หลอดไฟเพื่อเพิ่มแสงให้เหมาะกับบางมุมในห้องเรียน
เลือกใช้สีที่เหมาะสมกับลักษณะของเนื้อหาที่ใช้ในการเรียนรู้ เช่น เนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนตื่นเต้น มีชีวิตชีวา ให้เลือกใช้สีโทนร้อนที่สดใส อย่างสีเหลือง, ส้ม, แดง และเนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนจดจ่อ ใช้สมาธิ ให้เลือกใช้สีโทนเย็นอย่างสีเขียว, ม่วง, คราม, ฟ้า ที่มีโทนสีอ่อน ๆ
เสียงเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อจิตใจมนุษย์ หากใช้เสียงมาประกอบการเรียนการสอนก็ควรใช้ไม่เกิน 40 เดซิเบล หากใช้เสียงดังกว่านั้นจะทำให้ผู้เรียนขาดสมาธิ และเป็นการรบกวนมากเกินไป หากครูผู้สอนต้องการใช้เสียงเพลงในการประกอบก็สามารถทำได้ แต่ควรควบคุมเวลาไม่ให้เกิน 60 นาที
ห้องเรียนควรตั้งอยู่ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี เพราะร่างกายต้องการออกซิเจนในอากาศเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สมองตื่นตัวและพร้อมเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนรู้สึกมีชีวิตชีวา และพร้อมเรียนรู้อยู่เสมอ