ประกันโรคร้ายแรง
ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล
ทำให้ชีวิตง่ายคุณขึ้น
ความเจ็บป่วย เกิดได้ทุกเมื่อ
ข้อมูลส่วนตัวของท่านปลอดภัยแน่นอน
หลายคนอาจจะยังรู้สึกว่าทำไมต้องทำประกันสุขภาพ ยิ่งถ้าคุณเองเป็นคนรักษาสุขภาพ แข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วย ไม่เคยนอนโรงพยาบาล โอกาสที่จะได้ใช้แทบไม่ค่อยมี คุณคงเสียดายเงินหากจะต้องจ่ายเบี้ยประกันแพงๆ ทิ้งไปทุกปี จริงอยู่ ถ้าคุณเป็นคนที่แข็งแรงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คุณคงมีโอกาสเจ็บป่วยหรือเข้าโรงพยาบาลน้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าตลอดชีวิตของคุณจะไม่มีวันป่วยเลย
หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา สวัสดิการของบริษัทประกันสังคมหรือบัตรทองของรัฐ ก็ไม่เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้เวลาเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ได้เป็นพนักงานบริษัท อย่างเช่นเจ้าของธุรกิจหรือรับทำงานอิสระยิ่งต้องมีหลักประกันสุขภาพให้กับตัวเอง เพราะถ้าคุณเกิดเจ็บป่วยจนทำงานไม่ได้ขึ้นมา อย่างน้อยครอบครัวคุณก็จะไม่เดือดร้อน เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะเป็นหลักประกันสุขภาพให้กับคุณได้อย่างหนึ่ง ก็คือ การทำประกันสุขภาพ
ประกันสุขภาพมีการออกแบบประกันมาให้เลือกหลายแบบหลายประเภท ทำให้สับสนงุนงง เพราะประกันหลายอย่างเป็นประกันเสริมซึ่งจำเป็นจะต้องมีประกันหลักก่อน เช่น ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครอง 40 โรคร้ายแรงก็เป็นประกันเสริมเช่นกัน ดังนั้นผู้ทำประกันต้องมีประกันชีวิตหลักเสียก่อน
เพราะค่ารักษาพยาบาลแพงมากและจะแพงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี
หากคุณเกิดมีอาการเจ็บป่วยขึ้นมา บริษัทประกันจะเข้ามาดูแลค่ารักษาพยาบาลแทนคุณ โดยที่คุณไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาลที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งคุณจะได้รับคำปรึกษาและการดูแลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างดี
ลดภาระค่าใช้จ่ายของคุณและครอบครัวของคุณ
คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ทำประกันสุขภาพ เมื่อเกิดการเจ็บป่วยก็มักหลีกเลี่ยงที่จะไปพบแพทย์ เนื่องจากกลัวต้องเสียค่ารักษาพยาบาลที่แพงและมักหายามารับประทานเอง ซึ่งการไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีจากแพทย์นั้นอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงได้ แต่ในทางกลับกันหากคุณทำประกันสุขภาพไว้แล้วคุณก็จะสามารถไปพบแพทย์ได้อย่างหายห่วง
โดยส่วนใหญ่บริษัทที่ให้บริการด้านประกันจะมีทีมแพทย์และทีมพยาบาล คอยให้คำแนะนำและให้การดูแลในเรื่องของการรักษาพยาบาลสำหรับโรคต่างๆ รวมไปถึงให้คำปรึกษาในเรื่องของการดูแลตนเองเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ อีกทั้งยังมีการให้ข้อมูลและความรู้ทางด้านการแพทย์อีกด้วย
1. โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายครั้งแรกจากการขาดเลือด (First Heart Attack) การหยุดเต้นของหัวใจที่เกิดจากกล้ามเนื้อตายเพราะขาดเลือด เป็นอาการหัวใจวายชนิดหนึ่ง
2. การผ่าตัดเส้นเลือดกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary Artery Surgery)
3. โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ (Cardiomyopathy) ส่งผลให้การเต้นของหัวใจเต้นผิดจังหวะ
4. การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ (Surgery to the Aorta)
5. ความบกพร่องทางระบบประสาท อันเนื่องมาจากความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง (Stroke) หลอดเลือดสมองตีบ
6. โรคระบบประสาทมัลติเพิลสเคอโรสิส (Multiple Sclerosis) หรือโรคปลอกประสาทอักเสบ หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า "โรค MS" ซึ่งมีอาการเหน็บชา เห็นภาพซ้อน เดินทรงตัวไม่ดี
7. โรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterail Meningitis)
8. โรคสมองอักเสบจากเชื้อไวรัส (Viral Encephalitis)
9. ภาวะสมองใหญ่ไม่สามารถควบคุมการทำงานของร่างการตามปกติอย่างถาวร (Persistent Vegetative State or Apallic Syndrome) สมองส่วนหลักขาดการควบคุม
10. โรคสมองเสื่อม (Alzheimer’s Disease) โรคอัลไซเมอร์
11. โรคระบบประสาทพาร์กินสัน (Parkinson’s Disease)
12. มะเร็ง (Cancer)
13. เนื้องอกในสมอง ชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง (Benign Brain Tumor)
14. การผ่าตัดสมองอันเนื่องมาจากโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง (Cerebral Aneurysm Requiring Brain Surgery)
15. การสลบหรือหมดความรู้สึกสติสัมปชัญญะ (Coma)
16. การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง (Major Head Injury)
17. รากโครงข่ายประสาท Brachial ฉีกขาด (Multiple Root Avulsions of Brachial Plexus)
18. โรคเซลล์ประสาทนำคำสั่งเสื่อม (Motor Neurone Disease) ส่งผลให้เกิดโรคกล้ามเนื้อประสาทอ่อนแรง ALS
19. โรคปอดระยะสุดท้าย (Viral Encephalitis)
20. ความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง (Pulmonary Hypertension)
21. โรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต (Aplastic Anaemia) ทำให้ไม่มีเม็ดเลือดแดง
22. อัมพาต (Paralysis)
23. โรคกล้ามเนื้อเสื่อม (Muscular Dystrophy)
24. ภาวะข้ออักเสบรูมาตอยด์ชนิดรุนแรง (Severe Rheumatoid Artris)
25. โปลิโอ (Poliomyelitis)
26. ไตวาย (Kidney Failure) ไตหยุดทำงานซึ่งอาจเกิดจากอาการอย่างอื่นนำมาก่อน
27. ตับวาย (Liver Failure) ตับหยุดทำงานซึ่งอาจเกิดจากอาการอย่างอื่นนำมาก่อน
28. ไวรัสตับอักเสบชนิดรุนแรง (Fulminant Viral Hepatitis)
29. ภาวะตับอ่อนอักเสบที่กลับมาเป็นซ้ำและเรื้อรัง (Chronic Rela[sing Pancreatitis)
30. การปลูกถ่ายอวัยวะ (Major Organ Transplant)
31. การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ (Heart Valve Replacement Surgery)
32. โรคเนื้อเยื่อพังผืดอักเสบติดเชื้อและเป็นเนื้อตาย (Necrotisting Fasciitis or Gangrene)
33. โรคลำไส้อักเสบเป็นแผล (Severe Ulcerative Colitis or Cronh’s Disease)
34. โรคภูมิแพ้ตัวเองชนิดซิสเต็มมิค ลูปูส อิริเธมาโตซูส (Systemic Lupus Erythermatosus)
35. ตาบอด (Blindness)
36. การสูญเสียความสามารถในการพูด (Loss of Speech)
37. แผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก (Burns)
38. โรคเท้าช้าง (Elephantiasis)
39. การสูญเสียการดำรงชีพอย่างอิสระ (Loss of Independent Living)
40. การทุพพลภาพทั้งหมดอย่างถาวร (Total and Permanent Disability or TPD)
ถึงแม้ว่า พรบ.ประกันสังคมฉบับใหม่ (ฉบับที่ 4 พ.ศ.2558) จะเพิ่มสิทธิ์ในการรักษาโรคมากขึ้นและค่อนข้างที่จะครอบคลุมให้กับผู้ประกันตน แต่ในทางกลับกันก็ยังมีโรคยกเว้นบางโรคที่ประกันสังคมปฏิเสธที่จะให้สิทธิ์ในการออกค่ารักษาพยาบาลให้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมเช็คก่อนใช้นะคะ
1. โรคหรือการประสบอันตรายอันเนื่องจากการใช้สารเสพเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด
2. โรคเดียวกันที่ต้องใช้ระยะเวลารักษาตัวในโรงพยาบาล ประเภทคนไข้ใน เกิน 180 วันใน 1 ปี
3. การบำบัดทดแทนไตกรณีไตวายเรื้อรัง ยกเว้น
4. การกระทำใดๆ เพื่อความสวยงามโดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
5. การรักษาที่ยังอยู่ในระหว่างการค้นคว้าทดลอง
6. การรักษาภาวะมีบุตรยาก
7. การตรวจเนื้อเยื่อเพื่อการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ยกเว้น การตรวจเนื้อเยื่อเพื่อการปลูกถ่ายไขกระดูกของผู้ประกันตน โดยให้จ่ายค่าตรวจเนื้อเยื่อเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 7,000 บาทต่อราย ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการการแพทย์กำหนด
8. การตรวจใดๆ ที่เกินกว่าความจำเป็นในการรักษาโรคนั้น
9. การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ยกเว้น
10. การเปลี่ยนเพศ
11. การผสมเทียม
12. การบริการระหว่างรักษาตัวแบบพักฟื้น
13. ทันตกรรม ยกเว้น การถอนฟัน การอุดฟัน การขูดหินปูนและผ่าฟันคุด ให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 300 บาทต่อครั้ง และไม่เกิน 600 บาทต่อปี กรณีใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้มีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี
14. แว่นตา
ในทุกๆ ปีกระทรวงสาธารณสุขจะออกมาประกาศโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่พบมากที่สุดในคนไทย ซึ่งโรคยอดฮิตอันดับ 1 ที่ครองแชมป์ติดต่อกันมายาวนานหลายปีซ้อนก็คงหนีไม่พ้น "โรคมะเร็ง"
โรคมะเร็ง เป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับหนึ่งมายาวนาน ซึ่งหากเฉลี่ยแล้วทุกๆ ชั่วโมงจะมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งถึง 6 คน แม้ว่าในปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์และยารักษาโรคจะพัฒนาก้าวไกลไปมาก แต่คนส่วนใหญ่มักละเลยอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ กว่าจะรู้ตัวก็เป็นมะเร็งขั้นลุกลามและยากต่อการรักษาแล้ว เพราะฉะนั้นควรหมั่นใส่ใจตัวเองและสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายอยู่เสมอ
ร่างกายเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าร่างกายภายในของคุณเป็นอย่างไรหากคุณไม่หมั่นสังเกต และเมื่อใดที่อาการต่อไปนี้เกิดขึ้นกับร่างกายของคุณ นั่นคือสัญญาณเตือนว่าคุณควรไปพบแพทย์แล้วหละ
หากคุณคลำเจอก้อนเนื้อแปลกปลอมในร่างกาย คุณควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจโดยละเอียดว่าก้อนเนื้อที่พบนั้นเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้าย ถ้าเกิดเป็นเนื้อร้ายคุณจะได้เข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที
หากคุณหายจากอาการไข้หวัดแล้วแต่คุณยังคงไออยู่ตลอดไม่หายสักที นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งปอด มะเร็งในต่อมไทรอยด์ หรือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองก็ได้ ทางที่ควรไปตรวจให้ทราบสาเหตุจะดีกว่านะ
หากคุณรู้สึกว่าอาหารไม่ย่อยบ่อยๆ หรือท้องผูกอย่างรุนแรง อาการเหล่านี้อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยว่าอาการปวดคือสัญญาณที่บ่งบอกถึงการแพร่กระจายของโรคมะเร็ง อาทิ มะเร็งกระดูกหรือมะเร็งรังไข่
สมาคมโรคมะเร็งอเมริกัน เปิดเผยว่าการที่น้ำหนักลดลงแบบไร้สาเหตุมากกว่า 5 กิโลกรัมขึ้นไป เป็นสัญญาณที่สำคัญของโรคมะเร็งหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็งตับอ่อน โรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร โรคมะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งในหลอดอาหาร
ตัวอย่างเช่นการไอเป็นเลือดก็อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งปอด หรือการปะปนของเลือดในอุจจาระและปัสสาวะก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งในระบบขับถ่าย นอกจากนี้การที่ผู้หญิงมีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงรอบเดือนก็ยังเตือนได้ถึงโรคมะเร็งปากมดลูกได้เช่นกัน
ประกันโรคมะเร็ง คือ บริการประกันภัยโรคมะเร็ง ที่คุ้มครองในกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งรวมถึงเซลล์มะเร็งที่มีลักษณะไม่แพร่กระจาย (Non Invasive Cancer In Situ) โดยผู้ที่ทำประกันจะได้รับผลประโยชน์เต็มจำนวน เมื่อมีการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นมะเร็ง ไม่ว่าจะอยูในระยะใดก็ตาม แต่ต้องหลังจากระยะเวลาเอาประกันภัยไม่น้อยกว่า 90 วัน
ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าโรคมะเร็ง เป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายในด้านการรักษาสูง อีกทั้งยังใช้ระยะเวลาในการรักษานานและต่อเนื่อง ประกันภัยโรคมะเร็งจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินและช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย หากคุณโชคร้ายปต้องเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งได้
เจอ – จ่าย – จบ! เป็นคำเรียกลักษณะของประกันภัยโรคมะเร็งโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละคำมีความหมาย ดังนี้
คือ ผู้เอาประกันตรวจพบเจอว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งครั้งแรก
คือ ทางบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินชดเชยให้กับคุณ เต็มตามจำนวนทุนประกันภัยที่คุณได้เลือก
คือ เมื่อคุณได้รับเงินชดเชยเรียบร้อยแล้ว จะถือว่าความคุ้มครองในกรมธรรม์สิ้นสุดลงทันที
ประกันภัยโรคมะเร็ง จะมีความคุ้มครองที่เป็นแพทเทิร์นอยู่แล้ว คือ เมื่อมีการตรวจพบมะเร็ง บริษัทก็จะจ่ายค่าชดเชยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แล้วความคุ้มครองนั้นจะสิ้นสุดลงทันที แต่บางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าประกันภัยโรคมะเร็งมีให้เลือกว่าจะให้ความคุ้มครองระยะเริ่มต้น หรือจะให้คุ้มครองเฉพาะระยะแพร่กระจายเท่านั้น
ดังนั้นการเลือกทำประกันภัยโรคมะเร็ง จึงจำเป็นที่จะต้องทำการศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นในด้านความคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกัน เงื่อนไขและข้อยกเว้นต่างๆ รวมไปถึงชื่อเสียงของบริษัทที่รับประกันภัยอีกด้วย เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าเมื่อคุณต้องเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง คุณจะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและสามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น ประกันภัยโรคมะเร็งยังมีข้อแตกต่างและให้ผลประโยชน์มากกว่าประกันสุขภาพ เพราะประกันภัยโรคมะเร็งจะไม่มีข้อบังคับให้ผู้เอาประกันภัยนำเงินชดเชยที่ได้รับจากบริษัทประกันภัยไปจ่ายเฉพาะค่ารักษาพยาบาลเพียงเท่านั้น แต่คุณจะสามารถวางแผนการใช้เงินชดเชยจำนวนนั้นได้ด้วยตัวคุณเอง
ขอบคุณสำหรับการติดตามเรา
เงื่อนไขการรับส่วนลดเป็นไปตามที่ rabbit finance กำหนด
ข้อมูลส่วนตัวของท่านปลอดภัยแน่นอน