ปัญหาที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายของ บัตรเครดิต
ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เป็นต้นเหตุให้ข้าวของแพงขึ้นแทบทุกวัน บวกกับความต้องการของเราที่ อยากได้อยากมีไปซะหมดทุกอย่าง แต่ก็สวนทางกับรายได้ที่เรามี จึงทำให้ไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่ชวนให้จับจ่ายรอบข้างได้ หลายคนจึงเลือกใช้ตัวเลือกดีๆ ที่เป็นที่นิยมอย่าง “บัตรเครดิต” ที่จะทำให้เราซื้อง่ายจ่ายคล่องเพลินมือกันเลยทีเดียว
ด้วยความสะดวกสบายที่หลายคนมักไม่ค่อยระวัง จึงทำให้เกิดปัญหา “หนี้บัตรเครดิต” กันทั่วบ้านทั่วเมือง และหากคุณปล่อยให้ปัญหานี้ยืดเยื้อออกไปอีก ก็อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ จนทำให้คุณติด เครดิตบูโร ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วคงส่งผลไม่ดีต่ออนาคตในการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างแน่นอน
เมื่อเราพลาดในการบริหารเงิน อย่างเช่น การใช้บัตรเครดิต จนเป็นหนี้เป็นสินเช่นนี้แล้ว เราจะมีวิธีแก้ไขปัญหาเช่นนี้ได้อย่างไรบ้าง ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดคือ การหาเงินมาโปะหนี้ ว่าแต่เราจะไปเอาเงินสำหรับใช้หนี้มาจากไหน เพราะเงินเดือนที่เราได้ในทุกๆ เดือน ก็แทบไม่สามารถเจียดให้กับค่าใช้จ่ายอย่างอื่นได้เลย
ทางแก้ปัญหาของคนเป็นหนี้บัตรเครดิต
ทางเลือกที่หลายคนเลือกใช้ในการแก้ไขปัญหาติดหนี้บัตรเครดิต ก็มีหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการไป กู้หนี้เพื่อมาโปะหนี้ หรือการใช้บริการโอนหนี้บัครเครดิต ซึ่งวิธีนี้กำลังมาแรงอย่างมากในการ แก้ไขปัญหาหนี้บัตรเครดิต เรามาดูกันว่าบริการโอนหนี้บัตรเครดิตคืออะไรและตรงกับที่คุณเข้าใจอยู่หรือไม่ ?
“บริการโอนหนี้บัตรเครดิต” คือ การสร้างหนี้ก้อนใหม่ โดยการย้ายวงเงินที่ค้างชำระไปยังธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ที่อนุมัติเงินกู้ แล้วโอนเงินทั้งก้อนเข้าบัญชีออมทรัพย์ เพื่อเคลียร์หนี้บัตรเครดิตของเจ้าหนี้เดิม หรือเพื่อนำไปผ่อนชำระสินเชื่อหรือหนี้บัตรเครดิตของเดิมที่มีอยู่ในอีกธนาคาร
บริการโอนหนี้บัตรเครดิต หรือ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ถือเป็น สินเชื่อเงินกู้ที่ให้แก่บุคคลธรรมดา ด้วยการโอนหนี้บัตรเครดิต มาเป็นรูปสินเชื่อแทน โดยจะทยอยผ่อนชำระเป็นรายเดือนแทนผ่อนขั้นต่ำของบัตรเครดิต ซึ่งจะคล้าย สินเชื่อเงินสด คือ เป็นสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้หลักประกัน ยอดวงเงินกู้สูงสุด 5 เท่าของรายได้ต่อเดือนของผู้ขอกู้ต่อหนึ่งสถาบันการเงิน
แต่ในบางกรณีอาจจะได้วงเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์มากกว่ายอดหนี้บัตรเครดิตที่ต้องการปิด ก็จะสามารถนำเงินส่วนที่เกินไปใช้จ่ายทั่วไปได้อีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินนั้นๆ ดังนั้นก่อนการใช้บริการโอนหนี้บัครเครดิต ควรศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน เพื่อผลประโยชน์ของตัวคุณเอง
เหตุผลที่ทำให้ผู้มีปัญหา หนี้บัตรเครดิต ควรโอนหนี้บัตรเครดิต หรือ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เนื่องจากช่วยให้ ปิดหนี้บัตรเครดิต ได้อย่างรวดเร็ว และยังมีประโยชน์ที่ได้รับจากบริการโอนหนี้ที่รับรองว่า ถูกใจผู้ใช้บัตรเครดิต สถานะยอดฮิตที่ใครๆ ก็เป็นอย่างแน่นอน
“บริการโอนหนี้บัตรเครดิต” ดีอย่างไร ?
ประโยชน์สำคัญของบริการโอนหนี้บัตรเครดิตคือ การได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าบัตรเครดิตเดิม โดยมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยปีแรก 10% หรืออัตราอื่นๆ ตามข้อกำหนดของแต่ละสถาบันการเงิน อย่างไรก็ดี ดอกเบี้ยมักจะคงอัตราต่ำเพียงระยะแรก หรือปีแรก หลังจากนั้นดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้น แต่ยังคงต่ำกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตโดยทั่วไป เช่น 20% หรือ 28%
ในส่วนของการวงเงินที่ได้รับอนุมัติ ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาวงเงินตามความสามารถ การชำระคืนหนี้จากรายได้ของผู้กู้เป็นหลัก โดยผู้กู้นั้นไม่มีปัญหาเรื่องเครดิตบูโร ไม่มีประวัติเสีย หรือการผิดนัดชำระหนี้ในระยะ 3 - 6 เดือนที่ผ่านมา
โดยปกติธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ มีบริการโอนหนี้ หรือรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ผู้ขอกู้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวงเงินกู้ หรือรายละเอียดต่างๆ เพื่อตรวจสอบเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะแตกต่างกัน เลือกสมัครกับสถาบันการเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำ และดูต่อว่ามีเงื่อนไขใดน่าสนใจอีก เช่น เงื่อนไขของงวดการชำระ โปรโมชั่นส่วนลด และสิทธิประโยชน์อื่นๆ
1. ช่วยลดภาระยอดผ่อนต่อเดือนได้ง่ายๆ
เนื่องด้วยบัตรเครดิตจะมีเกณฑ์ผ่อนชำระขั้นต่ำต่อเดือนที่ 10% ของยอดใช้วงเงินในบัตร หรือ 5% สำหรับบัตรกดเงินสด นั่นทำให้หลายคนต้องพบกับปัญหาสภาพคล่อง หมุนเงินไม่ทัน ทำให้เจอปัญหาจ่ายชำระหนี้ล่าช้า และปวดหัวกับการทวงหนี้สารพัดวิธีจากสถาบันการเงินต่างๆ คงไม่มีใครอยากจะติดอยู่ในวังวนหนี้แน่นอน
วิธีหนึ่งที่จะช่วยลดภาระผ่อนหนี้บัตรเครดิตต่อเดือนได้คือ การกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต มาเพื่อปิดหนี้บัตรเครดิต หรือการโอนหนี้บัตร ซึ่งจะสามารถลดภาระผ่อนต่อเดือนลงได้เหลือเพียงประมาณ 3 % ของยอดหนี้เท่านั้น ซึ่งแลกกับจำนวนดอกเบี้ยจ่ายที่มากขึ้นในระยะยาว และทำให้สภาพคล่องระยะสั้นของผู้กู้ดีขึ้น รอจนวันที่เราได้เงินก้อนหรือโบนัส ค่อยพยาพยามหาทางปิดหนี้อีกทีก็ยังได้ แต่ก็ต้องศึกษาเงื่อนไขของสถาบันการเงินในการปิดบัญชีก่อนกำหนดด้วยล่ะ
2. สะดวกในการผ่อนชำระเพียงที่เดียว
ถ้าคุณมีปัญหาในการที่ต้องคอยไปผ่อนชำระหนี้ ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต, บัตรกดเงินสด, หรือ สินเชื่อเงินสด ของหลากหลายสถาบันการเงิน คุณก็คงปวดหัวกับการจำวันที่และจำนวนเงินที่จะต้องไปชำระ หรือต้องเสียเวลาเดินทางอีกด้วย
ดังนั้น การรีไฟแนนซ์หนี้เองก็จะสามารถช่วยคุณแก้ปัญหาตรงนี้ได้ โดยการรวมหนี้มาไว้ที่สถาบันการเงินเดียว เพื่อให้เราสะดวกขึ้นในการผ่อนชำระเป็นจำนวนเงินที่แน่นอนต่อเดือน ชำระคืนเพียงครั้งเดียวต่อเดือน ทำให้เราเองก็ติดตามภาระทางการเงินของเราได้ง่ายขึ้น หากเทียบกับตอนที่เรายังต้อง หมุนเงิน กับการผ่อนชำระขั้นต่ำทีละบัตรๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อรู้ถึงประโยชน์ของบริการโอนหนี้ที่จะช่วยลดโอกาส การติดเครดิตบูโร แถมยังช่วยลดภาระค่าผ่อนงวดชำระให้ง่ายและประหยัดมากยิ่งขึ้นแล้ว สำหรับคนที่ ใช้บัตรเครดิต แล้วกำลังโดนหนี้บัตรเครดิตคอยตามติดเป็นเงาอย่างนี้ คงเริ่มอยากใช้บริการรีไฟแนนซ์เครดิตกันบ้างแล้ว
เรามาดูกันว่า ผู้ใช้บัตรเครดิต ที่มีสิทธิ์ใช้บริการโอนหนี้บัตรเครดิตจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง และเอกสารที่ใช้ประกอบในการพิจารณาโอนหนี้บัตรเครดิตจะมีอะไรบ้าง เพื่อที่คน เป็นหนี้บัตรเครดิต อย่างเราๆ จะสามารถดำเนินการได้ถูกต้อง
ใครสามารถสมัครบริการโอนหนี้บัตรเครดิตได้บ้าง ?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ผู้ที่ควรสมัครบริการโอนหนี้บัตรเครดิตคือ ผู้ที่ติดหนี้บัตรเครดิต แต่การที่เรามีหนี้บัตรเครดิตและอยากใช้บริการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตบ้าง เราจะต้องทำอย่างไร และทุกคนที่ มีบัตรเครดิต สามารถสมัครบริการโอนหนี้บัตรเครดิตได้ทุกคนหรือไม่ เรามาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครบริการโอนหนี้บัตรเครดิตกันว่ามีอะไรบ้าง
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุระหว่าง 20 - 60 ปี
- หากทำงานประจำ ต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท ต่อเดือนขึ้นไป
- หากทำธุรกิจส่วนตัวต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 20,000 บาท ต่อเดือนขึ้นไป
- มีอายุงานปัจจุบันเกิน 4 เดือนขึ้นไปสำหรับงานประจำ
- มีการจดทะเบียนการดำเนินกิจการปัจจุบัน 2 ปี ขึ้นไป สำหรับธุรกิจส่วนตัว
อยากสมัครบริการโอนหนี้บัตรเครดิตต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่สามารถสมัครบริการโอนหนี้บัตรเครดิตกันแล้ว มาถึงขั้นตอนต่อไปนั่นก็คือ การเตรียมเอกสารประกอบการพิจารณาบริการโอนหนี้ที่ทางสถาบันการเงินส่วนใหญ่ร้องขอ ได้แก่
- สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ
- สลิปเงินเดือนตัวจริง
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากหน้าแรกที่ระบุชื่อ และเลขบัญชีของผู้สมัคร
- เอกสารแสดง ภาระหนี้สิน ของสถาบันการเงินอื่นๆ
- สำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนหรือสำเนาทะเบียนการค้า (สำหรับธุรกิจส่วนตัว)
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (กรณีนิติบุคคล)
- สำเนาบัญชีธนาคารที่ใช้หมุนเวียนในธุรกิจ ย้อนหลัง 6 เดือน หรือสำเนาภาษีเงินได้ (ภ.พ. 30) หรือสำเนางบการเงินปัจจุบัน
เอกสารประกอบการสมัครทั้งหมด ไม่ควรมีอายุเกิน 3 เดือน ทั้งนี้สถาบันการเงินแต่ละสถาบันการเงินอาจมีเงื่อนไขคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นควรจะตรวจสอบและสอบถามกับแต่ละสถาบันการเงินก่อนสมัคร บริการโอนหนี้บัตรเครดิต เพื่อที่เจ้าหน้าที่สถาบันการเงินจะสามารถการดำเนินการในการพิจารณาอนุมัติรีไฟแนนซ์ได้อย่างรวดเร็ว
บริการโอนหนี้บัตรเครติดจากสถาบันการเงิน
ปัจจุบันสถาบันการเงินหลายแห่งได้ให้บริการโอนหนี้บัตรเครดิตสำหรับ ผู้ใช้บัตรเครดิต มากพอสมควร ซึ่งมากจนเราเลือกไม่ถูกเลย เพราะแต่ละสถาบันทางการเงินก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะวงเงินอนุมัติและค่าดอกเบี้ย ที่เป็นสิ่งสำคัญของ บริการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เรามาดูกันว่าจะมีสถาบันการเงินแห่งไหนบ้างที่น่าสนใจในการสมัครบริการโอนหนี้บัตรเครดิต
1. โอนหนี้สินเชื่อกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์
เพียงคุณสมัครโอนบัตรเครดิต และ สินเชื่อส่วนบุคคล กรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ (First Choice) วันนี้ ฟรี! ค่าธรรมเนียมในการรวมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อ คุณสามารถโอนหนี้ได้สูงสุดถึง 5 บัญชี หรือ 5 บัตรด้วยกัน เริ่มต้นการโอนหนี้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป คุณเพียงมีรายได้ 10,000 บาท ขึ้นไปก็สามารถขอสมัครโอนหนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ได้แล้ว
หากคุณสมัครโอนหนี้ กรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ แล้วอนุมัติไม่ถึง 30,000 บาท ทางกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์ จะอนุมัติเป็นสินเชื่อบุคคล หรือบัตรผ่อนสินค้า ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สมัคร และที่สำคัญใช้เวลาในการดำเนินการเพียง 1 วันเท่านั้น
2. โอนสินเชื่อส่วนบุคคล ซิตี้แอดวานซ์
สำหรับใครที่สมัครโอนหนี้ สินเชื่อส่วนบุคคล ซิตี้แอดวานซ์ จะต้องมีฐานเงินเดือน 20,000 บาทขึ้นไป ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ หรือผู้ค้ำประกัน สำหรับในกรณีเป็นเจ้าของกิจการ หรือ ผู้ประกอบการธุรกิจส่วนตัว จำเป็นต้องดำเนินการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปีขึ้นไป
โดยให้วงเงินอนุมัติที่ต่ำกว่า 100,000 บาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 28%, อนุมัติ 100,000 – 149,999 บาท อัตราดอกเบี้ย 25%, อนุมัติ 150,000 – 199,999 บาท อัตราดอกเบี้ย 24%, อนุมัติ 200,000 – 299,999 บาท อัตราดอกเบี้ย 21%, อนุมัติ 300,000 – 399,999 บาท อัตราดอกเบี้ย 19% และอนุมัติ 400,000 บาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ย 18%
3. โอนหนี้บัตรเครดิต ทีเอ็มบี
การโอนหนี้บัตรเครดิตกับ ทีเอ็มบี คุณสามารถโอนหนี้สินเชื่อบุคคล TMB ได้ง่ายๆ โดยการสมัครโอนหนี้สินเชื่อบุคคล รีไฟแนนซ์ ซึ่งยอดรวมหนี้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป แต่ต้องมีอายุการใช้งาน 4 เดือนขึ้นไป วงเงินอนุมัติ สูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ประจำต่อเดือน หรือตั้งแต่ 30,000 – 1,000,000 บาท
สำหรับพนักงานประจำ ข้าราชการ หรือพนังงานรัฐวิสาหกิจ จะจ่ายดอกเบี้ยเพียง 10% นาน 1 ปีแรก แถมผ่อนได้นานสูงสุดถึง 5 ปี และกรณีเจ้าของบริษัท จะจ่ายดอกเบี้ยเพยง 12.50% นาน 1 ปีแรก
4. โอนหนี้ CIMB THAI
การโอนหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลกับทาง CIMB THAI คุณสามารถโอนหนี้สินเชื่อ และบัตรเครดิตกับธนาคาร CIMB THAI ได้เพียงมีเงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 16 – 28% ต่อปี อนุมัติสินเชื่อเงินด่วน 5 เท่าของรายได้ และสูงสุดไม่เกิน 1,500,000 บาท แต่ไม่รับสมัครผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งคุณสามารถเลือกผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 84 เดือน เลยทีเดียว
ทั้งนี้ข้อมูลของสถาบันการเงินที่กล่าวไปข้างต้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตโดยขึ้นอยู่กับธนาคาร ดังนั้นก่อนการสมัครบริการโอนหนี้บัตรเครดิตควรสอบถามรายละเอียดกับสถาบันการเงินก่อน เพื่อที่คุณจะไม่ได้เสียผลประโยชน์ การใช้บริการบัตรเครดิต
rabbit finance เป็นบริษัทโบรกเกอร์นายหน้าประกันภัยที่มีความน่าเชื่อ เพราะมีการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย อีกทั้งเป็นบริษัทในเครือ BTS Group ซึ่งเป็น 1 ใน 50 ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ได้รับความนิยมแล้ว rabbit finance ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นที่ได้รับความนิยมเช่นกัน นั่นคือ “การขอสินเชื่อ” รวมถึงการให้บริการโอนหนี้บัตรเครดิตที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน
ใช้บริการกับ rabbit finance ดีอย่างไร ?
หากคุณเลือกใช้บริการบัตรเครดิตกับ rabbit finance คุณจะได้รับการบริการที่ประทับใจ รววมถึงได้รับสิทธิพิเศษที่มากกว่าการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินโดยตรง หรือโบรกเกอร์รายอื่นอย่างแน่นอน ดังนี้
การบริการโอนหนี้บัตรเครดิต กับ rabbit finance จะช่วยให้คุณประหยัดเงินในการผ่อนชำระค่าค่างวดได้ถูกลงกว่าบริษัทอื่น แถมคุณอาจจะได้รับเงินก้อนมาสำรองอีกด้วย นอกจากประหยัดแล้วยังคุ้มค่าคุ้มราคาอีกด้วย
-
ปลอดภัยกว่าการกู้เงินนอกระบบ
การขอสินเชื่อ rabbit finance ช่วยให้คุณวางใจได้เลยว่าจะไม่ถูกเอาเปรียบจาก อัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินจริง เพราะ rabbit finance อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหน่วยงานราชการ ซึ่งแตกต่างกับ การกู้เงินนอกระบบ ที่มักจะคิดค่างวดผ่อนชำระที่สูงมาก ซึ่งอาจจะสูงกว่าวงเงินอนุมัติด้วยซ้ำ
-
เปรียบเทียบข้อเสนอจากสถาบันการเงินชั้นนำ
เนื่องจากหลายสถาบันการเงินได้เปิดให้บริการโอนหนี้บัตรเครดิตเป็นจำนวนมาก การบริการเปรียบเทียบจาก rabbit finance จึงถือเป็นตัวช่วยดีๆ ที่จะช่วยให้คุณได้รีไฟแนนซ์บัตรเครดิตที่ดีที่สุด โดยเป็นการเปรียบเทียบข้อเสนอจาก สถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับความนิยมในการขอสินเชื่อเป็นอย่างมากอย่างมาก
การบริการเปรียบเทียบนี้จะช่วยคัดเลือกสิทธิประโยชน์ วงเงินอนุมัติ และราคาค่างวดผ่อนชำระที่ดีที่สุดให้คุณ ซึ่งใช้เวลาดำเนินการภายใน 30 วินาทีเท่านั้น ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาไปกับการสอบถามกับสถาบันการเงินโดยตรง
-
ระบบความปลอดภัยที่ได้รับมาตรฐาน
rabbit finance ใช้ระบบเก็บรักษาข้อมูล Omise ซึ่งเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับในระดับมาตรฐานสากล ที่ช่วยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง rabbit finance มีนโยบายไม่เปิดเผยข้อมูลของคุณให้แก่บุคคลที่ 3 ทำให้คุณไม่ต้องเป็นกังวลว่า ข้อมูลของคุณจะรั่วไหลและถูกนำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์โดยบุคคลอื่น
-
ช่องทางการชำระเงินหลากหลาย
การที่ rabbit finance มีช่องทางการชำระค่างวดผ่อนชำระที่หลากหลาย ทำให้ผู้ที่สมัครบริการโอนหนี้บัตรเครดิต ได้รับความสะดวกสบายในการชำระค่าเบี้ยประกันมากขึ้น
หากคุณเลือกใช้บริการโอนหนี้บัตรเครดิต รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต หรือ ทำบัตรเครดิตกับ rabbit finance รับรองว่าจะได้รับความประหยัด ความรวดเร็ว และการให้บริการที่ประทับใจ อีกทั้งคุณยังจะได้สิทธิพิเศษและข้อเสนอต่างๆ อีกมากมาย