สถานที่ท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด ของประเทศสหรัฐอเมริกา
อย่างที่ทราบกันดีว่า สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และยังเป็นประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกด้วย เพราะไม่ว่าใครต่ใครที่เคยไปอเมริกามาแล้ว ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยขั้นเทพจริงๆ พอได้รู้แบบนี้ ก็อยากจะตีตั๋วไปเที่ยวอเมริกาดูสักครั้ง แต่ก่อนจะบินไปเที่ยวอเมริกา รู้หรือยังว่าแลนด์มาร์คที่ห้ามพลาดมีอะไรบ้าง?
-
เทพีเสรีภาพ (Statue of Liberty) , นิวยอร์ก
เทพีเสรีภาพ เป็นอนุสาวรีย์ที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าทางจิตใจสำหรับชาวอเมริกันมาก เพราะเทพีเสรีภาพเป็นของขวัญที่ฝรั่งเศสมอบให้อเมริกา ในวันที่อเมริกาเฉลิมฉลองวันชาติครบ 100 ปีนั่นเอง และในปี พ.ศ. 2527 องค์การยูเนสโก ก็ได้ประกาศให้อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็นมรดกโลกที่สำคัญอีกด้วย
-
แอนเทอโลป แคนยอน (Antelope Canyon) , แอริโซนา
หุบเขาแอนเทอโลป เป็น 1 ในสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว และยังเป็นหุบเขาที่อันตรายที่สุดอีกด้วย ซึ่งการกำเนิดของหุบเขานี้ เกิดจากการพังทลายของชั้นหิน จากกระแสน้ำที่ซัดผ่าน บวกกับความแรงจากกระแสลม พายุฝน ของฤดูกาลต่างๆ จนเกิดเป็นหุบเขาที่มีสีสันขึ้นมา และจากการตกกระทบของแสงอาทิตย์ ที่สาดส่องผ่านช่องแคบ สะท้อนกับสีของชั้นหิน เลยเกิดเป็นความสวยงามอย่างหาที่สุดไม่ได้เลยล่ะค่ะ
แต่บริเวณหุบเขานี้ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ โดยระดับน้ำอาจจะสูงถึง 10 เมตรทีเดียว สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทาย ต้องลองไปชมความงามท่ามกลางความอันตรายให้ได้สักครั้ง
-
สะพานโกลเดนเกท (Golden Gate Bridge) , ซานฟรานซิสโก
สะพานโกลเดนเกท เป็นสะพานแขวนที่มีขนาดใหญ่และยาวมากที่สุดสะพานหนึ่ง ซึ่งบนสะพานจะมีจุดชมวิวที่สวยงามมากๆ โดยจะเห็นอ่าวเบย์เอเรีย มหาสมุทรแปซิฟิก และมารินเฮดแลนด์ทางด้านเหนือของสะพาน ทำให้นักท่องเที่ยวชอบขึ้นมาเดินบนทางเท้าเลียบสะพาน เพื่อที่จะได้ถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นที่ระลึกกันค่ะ แต่สพะานแห่งนี้ก็มีความน่ากลัวแฝงอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นสถานที่ยอดนิยมฆ่าตัวตายอันดับหนึ่งของโลกเลยล่ะ
-
อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน (Yellowstone National Park) , ไวโอมิง มอนแทนา และ ไอดาโฮ
เยลโลว์สโตน เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของโลกและใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา อุทยานแห่งนี้ จะตั้งอยู่บนที่ราบสูงเยลโลว์สโตน ซึ่งจะถูกล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาร็อคกี้ ทำให้มีอาณาเขตติดต่อกันถึง 3 รัฐ คือ ไวโอมิง มอนแทนา และ ไอดาโฮ
โดยจุดเด่นของเยลโลว์สโตน คือ สีสันของบ่อน้ำพุร้อนแบบเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เพราะบริเวณตรงกลางของบ่อน้ำพุจะเป็นสีฟ้า ถัดออกมาก็จะเป็นสีแดง และสีส้มที่บริเวณขอบตามลำดับ เก๋ใช่ไหมล่ะคะ
-
น้ำตกไนแองการา (Niagara Falls) , นิวยอร์ก
น้ำตกไนแองการา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ที่สูงมากกว่า 50 เมตร และกว้างมากกว่า 300-800 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของสหรัฐอเมริกา ที่นิวยอร์ก และประเทศแคนาดา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือเข้าไปชมน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด และสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าจะไปช่วงหน้าหนาว ก็ทำใจกันไว้ก่อนเลยนะคะ เพราะที่นั่นจะมีอากาศที่หนาวเย็นมากๆ ย้ำว่ามากๆ เลยล่ะค่ะ
เราจะเห็นว่าสถานที่ท่องเที่ยวประเทศอเมริกา เต็มไปด้วยความสวยงามและความท้าทายที่น่าดึงดูดจริงๆ สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจไปเที่ยวอเมริกา ก็คงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องต่างๆ ไว้ให้ดีๆ ด้วยนะคะ
จะบินลัดฟ้าไปอเมริกาทั้งที ก็ต้องเตรียมความพร้อมกันหน่อย เวลาไปถึงที่จริงๆ จะได้ดู professional แบบสุดๆ กันไปเลย เพราะฉะนั้น วันนี้ rabbit finance จึงนำ 19 ข้อควรรู้ ก่อนเดินทางไปเที่ยวอเมริกา มาฝากกันค่ะ
-
ที่อเมริกา ใช้พวงมาลัยซ้าย
ดังนั้น ทุกอย่างจะกลับกันหมดเลยนะคะ ถ้าคุณต้องการเลี้ยวซ้าย คุณก็ต้องเข้าเลนขวา และทุกครั้งที่เปิดไฟเลี้ยว ก็อย่าเผลอไปเปิดเป็นที่ปัดน้ำฝนล่ะ
Google Map เท่านั้นที่ช่วยคุณได้ เพราะประเทศอเมริกาใหญ่มาก
ลองหันมาดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ อย่างน้ำอัดลมบางยี่ห้อ ซึ่งอาจจะถูกกว่าน้ำเปล่าก็ได้
-
ที่อเมริกา Starbucks เป็นเครื่องดื่มประเภทน้ำชงที่ถูกที่สุดแล้ว
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่อเมิรอกาไม่มีรถเข็นขายกาแฟถุงเหมือนบ้านเรา แถมเครื่องดื่มชงสดร้านอื่นๆ ก็แพงมาก ชนิดที่ว่าสตาร์บัคเนี่ย เบสิกสุดๆ แล้ว
คนอเมริกาแต่งตัวง่ายๆ ถ้าคุณเอาแฟชั่นญี่ปุ่นเกาหลีไปใส่ที่นั่น ก็อาจจะดูแปลกไปสักหน่อย เพราะคนอเมริกันนิยมใส่ เสื้อ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ แจ็กเก็ต และหมวกเท่านั้น เรียบง่ายแต่คูลสุดๆ
-
การจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตถือเป็นเรื่องธรรมดามาก
ประเทศอเมริกาไม่นิยมใช้เงินสดกันสักเท่าไหร่ เพราะทุกคนจะนิยม ใช้บัตรเครดิตกันเป็นหลัก แถมห้างร้านต่างๆ ก็มีเครื่องรูดบัตรกันทั้งนั้น
-
ก่อนจะไปอเมริกา นอกจากเสื้อหนาวแล้ว หมวกก็สำคัญไม่แพ้กัน
อเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอากาศค่อนข้างหนาว คนไทยอย่างเราที่ได้สัมผัสอากาศหนาวปีละไม่กี่สัปดาห์ อาจเจ็บป่วยได้ง่ายๆ
เพราะเมื่ออากาศเย็น คุณก็จะไม่ค่อยหิวน้ำ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ร่างกายก็ขาดน้ำไม่ได้จริงไหมล่ะคะ
เพราะที่อเมริกาอากาศเปลี่ยนไวมาก วันนึงร้อน วันนึงหนาว วันนึงฝน เราต้องพร้อมทุกสถานการณ์
แต่คุณห้ามคิดมากหรือตีราคาเป็นเงินไทยเด็ดขาด มันอาจทำให้คุณไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ เพราะของที่อเมิรอกาแพงกว่าบ้านเรามาก
เมื่อทานอาหารเสร็จ ก็อย่าลืมทิป 15 - 20% ให้เขาด้วยล่ะ ไม่งั้นคุณอาจจะโดนมองแรงเอาได้
ร้านเบอร์เกอร์หรืออาหารจานด่วน เปรียบเสมือนข้าวแกงข้างทางที่หาซื้อได้ทั่วไป อีกทั้งยังสะดวกสุดๆ เพราะมี Drive thru ด้วย
-
ทุกร้านเฟรนไซส์ หรือร้านกาแฟ จะมีห้องน้ำให้เข้าฟรี
ถือเป็นเรื่องปกติที่ร้านค้าจะมีห้องน้ำฟรีให้ใช้บริการ แถมยังสะอาดกว่าห้องน้ำตามปั๊มบ้านเราเยอะด้วย
-
ไวไฟฟรี มีให้ใช้ได้ทุกที่
ไม่ว่าจะเป็น ตามห้างร้านใหญ่ๆ ร้านเสื้อผ้า ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ปล่อยให้ใช้ฟรีหมด
เวลาจะช้ากว่าเมืองไทยเกือบ 10-12 ชั่วโมง เลยทีเดียว เรียกได้ว่าใช้เวลาปรับตัวกันนานเลยล่ะค่ะ
-
ที่อเมริกา ข้ามถนนสะดวกมาก
เพราะรถจะหยุดให้เราไปก่อนเสมอ เป็นถนนที่ปลอดภัยสุดๆ
-
ที่อเมริกา ค่าTaxi แพงมาก
โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ จะยิ่งแพง เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็เลี่ยงเถอะค่ะ
-
โอกาสได้เห็นสะพาน Golden Gate
หากคุณไปเที่ยวอเมริกา แล้วคาดหวังว่าจะเห็นสะพาน Golden Gate แบบเต็มสะพาน โดยไม่มีหมอกบัง ก็ขอให้เผื่อใจไว้สักหน่อยนะคะ เพราะมันเป็นไปได้ยากมากๆ
ข้อควรรู้ที่เราว่ามาคงพอช่วยให้เพื่อนๆ วางแพลนไปเที่ยวอเมริกาได้ง่ายขึ้นแล้ว แต่ถึงจะเตรียมตัวไปดีแค่ไหน เรื่องผิดพลาดหรือเหตุไม่คาดคิดก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ ทางที่ดีเตรียมวิธีรับมือกับเหตุฉุกเฉินไว้แต่เนิ่นๆ ด้วยก็จะดีนะคะ
เป็นคำถามที่คาใจใครหลายๆ คนกับคำถามที่ว่า "ทำไมต้องมีประกันการเดินทางด้วย" แล้วทำไมเวลา ขอวีซ่าเชงเก้น เขาถึงต้องบังคับให้ทำประกันการเดินทาง ? ซึ่งวันนี้ rabbit finance มีคำตอบมาให้ค่ะ
ทำไมต้องมีประกันการเดินทาง ?
เพราะทุกการเดินทางมีความเสี่ยงอยู่เสมอ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางไกลไปทวีปยุโรป ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางเพื่อท่องเที่ยว หรือ เดินทางเพื่อทำธุรกิจ คุณจำเป็นต้องมี ประกันการเดินทาง เพื่อใช้ในการขอวีซ่า รวมถึงเพื่อให้ได้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศและอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง โดยจะต้องมีมูลค่าการคุ้มครอง ไม่ต่ำกว่า 30,000 ยูโร หรือถ้าเป็นเงินไทยก็จะเท่ากับ 1,500,000 บาท
แล้วทำไมกลุ่มประเทศยุโรป ถึงต้องบังคับให้คุณทำประกันการเดินทางล่ะ ?
เหตุผลที่ประเทศปลายทางในทวีปยุโรป ต้องการให้ผู้มาเยือนทั้งหลาย ทำประกันการเดินทาง ก็เพราะว่า พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น อุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วยต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้เดินทาง ระหว่างการท่องเที่ยวอย่างเพลิดเพลิน จนอาจจะทำให้กลายเป็นเรื่องน่าเศร้าแทน เพราะค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศนั้น ราคาสูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทย
อาทิเช่น หากคุณเกิดอุบัติเหตุขาหักแขนหักขึ้นมาระหว่างการท่องเที่ยว คุณอาจจะต้องเสียค่ารักษาพยาบาลในประเทศที่คุณเกิดอุบัติเหตุสูงถึงหลายแสนบาท ยิ่งถ้าคุณต้องกลับมารักษาต่อในประเทศไทยด้วย คุณก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งนี่ยังไม่นับรวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่คุณได้จ่ายล่วงหน้าไปแล้ว ในกรณีที่แผนการเดินทางของคุณยังไม่จบ
แต่ถ้าคุณทำประกันการเดินทาง ที่ครอบคลุมช่วงระยะเวลาการเดินทางของคุณ คุณก็จะเสียค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 300 บาทเท่านั้น แต่จะได้รับความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากเหตุไม่คาดคิดถึงหลักล้านเลยทีเดียว ประกันการเดินทางจึงเป็นสิ่งที่ควรจะทำทุกครั้งก่อนที่คุณเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม
ย้ำอีกทีว่า เมื่อคุณรู้แบบนี้แล้ว ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินลัดฟ้าไปไหน ก็ควรทำประกันการเดินทางกันเอาไว้ด้วย ยังไงกันไว้ก็ดีกว่ามานั่งแก้จริงไหมล่ะคะ
เมื่อไหร่ที่คุณควรซื้อประกันการเดินทาง
หลายๆ คนมักคิดว่า ประกันการเดินทางเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะคิดว่าโอกาสได้ใช้มีน้อยมาก หรือถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจริงๆ ประกันการเดินทางจะช่วยอะไรได้?
แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ยังคงนั่งยัน ยืนยัน นอนยันว่า การทำประกันการเดินทาง เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก สำหรับการเดินทางในแต่ละครั้ง แต่จะมีเหตุการณ์อะไรบ้างล่ะ ที่ควรซื้อประกันการเดินทางเอาไว้ ?
แน่นอนล่ะ เมื่อคุณเริ่มแก่ ปัญหาสุขภาพก็ต้องตามมาแน่นอน ยิ่งสำหรับนักเดินทางขาลุยแล้ว ประกันการเดินทางยิ่งสำคัญ นั่นก็เพราะว่าค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศนั้นแพงมาก ถ้าเทียบกับค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทย ซึ่งหากเกิดเหตุไม่คาดฝันล้มป่วยขึ้นมากระทันหัน คุณเองก็คงไม่อยากแบกรับภาระค่ารักษาพยาบาลสุดโหดใช่ไหมล่ะคะ
-
ไปในสถานที่ ที่เดินทางลำบาก
นั่นก็เพราะว่าสถานที่เหล่านี้ มักจะมีบริการในด้านการแพทย์ที่อาจจะไม่พร้อมเท่าที่ควร ซึ่งหากคุณเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา คุณก็คงอดกังวลไม่ได้ว่าการรักษาจะดีพอหรือเปล่า ดังนั้น หากคุณทำประกันการเดินทางเอาไว้ คุณก็สบายใจหายห่วงได้เลย เพราะประกันการเดินทาง จะมีบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินทางการแพทย์ เพื่อพาคุณกลับไปรักษาตัว ในที่ที่พร้อมกว่าได้เลยในทันที
ขึ้นชื่อว่าครอบครัวแล้ว ย่อมสำคัญเสมอ สำหรับครอบครัวที่วางแผนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ คงไม่สนุกแน่ หากมีใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัว เกิดป่วยขึ้นมากะทันหันก่อนการเดินทาง ทำให้ต้องยกเลิกการเดินทางกระทันหัน ซึ่งถ้าหากคุณทำประกันการเดินทางให้ครอบครัวไว้แล้ว คุณก็จะสามารถขอเคลมค่าบริการต่างๆ ที่คุณได้จ่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่ได้ใช้บริการกลับมาได้ เห็นไหมล่ะคะ ว่าคุณจะไม่เสียเงินไปแบบสูญเปล่าแน่นอน
ความคุ้มครอง จากประกันการเดินทาง
สำหรับสิทธิประโยชน์หรือการคุ้มครองขั้นพื้นฐาน ที่คุณจะได้รับจากการทำประกันการเดินทาง มีดังนี้
- การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายที่เกิดอุบัติเหตุร่วมกับเรา
- ค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บไข้ได้ป่วย หรือการบาดเจ็บจากกีฬาเสี่ยงภัย
- ค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน
- ค่าขนส่งศพผู้เสียชีวิตกลับประเทศ
- ค่าใช้จ่ายในการเยี่ยมผู้ทำประกัน ซึ่งป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุในต่างประเทศ
- การจัดส่งยาไปถึงผู้ทำประกัน ที่เจ็บป่วยในต่างประเทศ
- พาหนะในการจัดส่งผู้ทำประกันที่เป็นผู้เยาว์กลับประเทศ ในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือ
- ค่าใช้จ่ายในการค้นหา การช่วยชีวิต และการกู้ภัย
- การยกเลิกการเดินทาง
- การลดจำนวนวันเดินทาง
- ความสูญเสีย หรือความเสียหายของสัมภาระในการเดินทาง
- การล่าช้าของการเดินทาง เช่น เที่ยวบินล่าช้า สัมภาระล่าช้า และการจี้เครื่องบิน
- เงินพกติดตัว และหนังสือเดินทางสูญหาย
พร้อมจะไปอเมริกากันหรือยัง? ถ้าพร้อมแล้วก็ไปจัดกระเป๋ากันเลย! ซึ่งวันนี้ rabbit finance มีเช็คลิสต์สำหรับจัดกระเป๋าเดินทางแบบครอบครัว มาฝากกันค่ะ
เช็คลิสต์กันหน่อย ว่าเก็บของครบหรือยัง ?
1. ของสำคัญ
Passport , บัตรประชาชน , ตั๋วเครื่องบิน , ใบจองที่พัก , เงิน และ บัตรเครดิต , กุญแจบ้าน และ กุญแจรถ , เบอร์ฉุกเฉิน , แผนที่
2. เครื่องแต่งกาย
เสื้อผ้า , หมวก , เสื้อหนาว , ถุงมือ , ผ้าพันคอ , ถุงเท้า , รองเท้า
3. อุปกรณ์อาบน้ำ
ผ้าเช็ดตัว , หมวกอาบน้ำ , ครีมอาบน้ำ , สบู่ , โฟมล้างหน้า , แปรงสีฟัน , ยาสีฟัน , แชมพู , หวี , ไดร์เป่าผม
4. การเดินทาง
หมอนรองคอ , ผ้าปิดตา , เครื่องเล่นเพลง
5. ยาสามัญ
ยาแก้ปวด ลดไข้ , ยาแก้ท้องเสีย , ยาคลายกล้ามเนื้อ , ยาลดน้ำมูก แก้ไอ , พลาสเตอร์พันแผล , ยาดม ยาหม่อง ยากันยุง
6. ของใช้เด็ก
ผ้าอ้อม , ขวดนม , น้ำยาล้างขวด แปรงล้างขวด , ทิชชู่แห้งและเปียก , นม , ของเล่นโปรด , กระติกน้ำร้อน
เช็คลิสต์เสร็จแล้วก็ไปกันเลย แต่ถ้าหากใครยังไม่ได้ทำประกันการเดินทางไว้ แล้วยังไม่รู้จะไปทำที่ไหนดี rabbit finance จะหาประกันการเดินทางที่เหมาะกับคุณให้เอง
ซื้อประกันการเดินทางกับ rabbit finance
กระต่ายน้อยพร้อมให้บริการคุณ เมื่อคุณใช้บริการกับ rabbit finance คุณจะมั่นใจได้เลยว่า คุณกำลังใช้บริการอยู่กับโบรกเกอร์ประกันภัยมืออาชีพ ที่มีความน่าเชื่อถือ มีความปลอดภัยทางข้อมูล มีคำแนะนำดีๆ พร้อมทั้งมีของแถมสุดพิเศษ เตรียมพร้อมไว้ให้คุณทุกครั้งที่ใช้บริการอย่างแน่นอน
ขั้นตอนการสมัครก็ง่ายแสนง่าย
หากคุณสนใจซื้อประกันการเดินทางกับ rabbit finance คุณก็สามารถทำได้ง่ายๆ ตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
สิทธิประโยชน์มากมาย จาก rabbit finance
-
เลือกผ่อนได้ตามต้องการพร้อมรับสิทธิประโยชน์อื่นๆ
ไม่ว่าคุณจะจ่ายสดหรือจ่ายผ่อน ก็สบายใจได้ เพราะ rabbit finance ให้คุณเลือกผ่อนชำระ 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือน แต่ถ้าคุณเลือกชำระสดเราลดให้ทันที 8% ! รวมกว่า 2,000 บาท
-
บริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
rabbit finance พร้อมให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และช่วยเหลือพิเศษบนถนนอีก 24 ชั่วโมง พร้อมดาวโหลดฟรี Prompt แอปพลิเคชั่น ที่ App Store และ Play Store