บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) คือหนึ่งในบริษัทประกันวินาศภัยแนวหน้าของประเทศไทยที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้คนมากมาย ด้วยการมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านของงานบริการและศักยภาพขององค์กร ด้วยการบริการงานที่โปร่งใส เติบโตโดยยึดหลักธรรมาภิบาล และบุคลากรทุกคนล้วนให้ความใส่ใจกับสังคมอย่างจริงจัง
ปัจจุบัน เมืองไทยประกันภัย ได้เร่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยมากมายที่พร้อมจะรองรับความเสี่ยงของคนไทยได้แทบทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น ประกันการเดินทาง, ประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ , ประกันอัคคีภัยและทรัพย์สิน , ประกันภัยสำหรับภาคธุรกิจ , ประกันภัยอื่นๆ และสิ่งที่เป็นตัวชูโรงของ เมืองไทยประกันภัย ทำให้บริษัทมีชื่อเสียงโด่งดังได้ในทุกวันนี้ คงหนีไม่พ้น ประกันภัยรถยนต์ จากบริษัท เมืองไทยประกันภัยที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างให้การยอมรับว่าค่าเบี้ยประกันรถยนต์ถูกกว่าใคร งานบริการที่รวดเร็วฉับไวแถมยังมีกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่หลากหลาย ให้ลูกค้าได้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละคนดังนี้
ประกันภัยรถยนต์ ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมที่สุดแต่จะมีค่าเบี้ยประกันรถยนต์สูงที่สุดด้วยเช่นกัน
คือ ประกันภัยรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อรถเก๋งเอเชียโดยเฉพาะ ซึ่งจะให้ความคุ้มครองน้อยกว่าประกันชั้น 1 เพียงเล็กน้อย แต่จะมีจุดเด่นกว่าประเภทอื่นๆ คือ การชดเชยค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างนำรถเข้าอู่
ถือเป็นประกันชั้น 2 ประเภทหนึ่ง ที่ให้ความคุ้มครองค่อนข้างสูง โดยเป็นรองลงมาจากการทำประกันชั้น 1 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จะมีความคล้ายคลึงกับประกันชั้น 2+ พลัส แต่จะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ในส่วนของวงเงินการคุ้มครอง
ถือเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองน้อยที่สุดและมีค่าเบี้ยประกันรถยนต์ถูกที่สุดเช่นกัน โดยจะให้ความคุ้มครองเพียงตัวบุคคล ไม่มีการคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถคันที่เอาประกัน
คล้ายคลึงกับการทำประกันชั้น 3 แต่จะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุรถยนต์โดยมีคู่กรณี ซึ่งส่วนที่เพิ่มมานี้ ถือว่ามีประโยชน์ค่อนข้างมากเลยทีเดียว
ถือเป็นประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ที่รถยนต์ทุกคันต้องทำตามข้อบังคับของกฎหมาย
เราจะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์จาก เมืองไทยประกันภัย มีความหลากหลายพร้อมให้ทุกคนได้เลือกสรร ตั้งแต่ การเลือกซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจตามความเหมาะสมไปจนถึงการทำประกันภาคบังคับอย่าง พ.ร.บ.รถยนต์ เมืองไทยประกันภัย ก็มีพร้อมให้บริการชนิดที่เรียกว่า สามารถทำทุกอย่างให้ครบจบในที่เดียวได้อย่างง่ายดาย
หลายคนคงรู้เป็นอย่างดีแล้วว่า ประกันภัยรถยนต์มีอยู่หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ,ประกันชั้น 2 และ ประกันชั้น 3 ที่ให้ความคุ้มครองจากมากไปน้อยตามลำดับ ซึ่งประกันรถยนต์แต่ละประเภท ก็ล้วนมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุดของประกันชั้น 1 หรือเป็นเรื่องค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่ถูกที่สุดของประกันชั้น 3 แต่สำหรับประกันชั้น 2 ที่ไม่ได้ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดและถูกที่สุด แบบนี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่ตรงไหนกันละ?
เหตุผลที่ต้องมีการพัฒนา ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 เมื่อคนเราตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ ก็มักมีการกำหนดเงื่อนไขและความต้องการที่ชัดเจนเป็นลำดับแรก ตัวอย่างเช่น คนที่รักรถเป็นชีวิตจิตใจหรือใช้รถยนต์คันหรูราคาแพง ก็ต้องการความคุ้มครองที่ดีเยี่ยม ครอบคลุมในแทบทุกกรณีเสี่ยง ส่วนผู้ที่ใช้รถเพื่อทำมาหากิน หรือใช้รถยนต์เก่าที่ราคาค่อนข้างถูก ก็จะมองหาประกันภัยที่มีราคาถูก ถึงแม้จะให้ความคุ้มครองไม่มากแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสักเท่าไหร่
ประกันรถยนต์ชั้น 2 ที่มีเงื่อนไขการคุ้มครองและค่าเบี้ยประกันแบบครึ่งๆ กลางๆ จึงมักไม่ใช่ตัวเลือกลำดับแรกสำหรับผู้คนที่ใช้รถส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 + ที่จะช่วยเติมเต็มจุดอ่อนของประกันรถยนต์ชั้น 2 และกลายเป็นที่นิยมของผู้คนมากมาย ด้วยกรมธรรม์ประกันภัยที่แสนโดนใจคร่าวๆ ดังนี้
- คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอกทั้ง ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน
- คุ้มครองบุคคลภายในรถทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
- คุ้มครองรถคันที่เอาประกันภัย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์โดยมีคู่กรณี
- คุ้มครองในกรณีที่รถสูญหายและไฟไหม้
เราจะเห็นได้ว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ มีความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกัับ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่น้อย แถมยังมีค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่ถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัด จึงไม่แปลกที่ ประกันรถยนต์ชั้น 2 + กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ถึงแม้ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ จะมีเงื่อนไขความคุ้มครองที่ดีมากแค่ไหน แต่ทุกคนก็ล้วนต้องการเงื่อนไขยิบย่อยที่ต่างกันออกไปอยู่ดี จะหวังให้ประกันชั้น 2 พลัส เพียงตัวเดียว ถูกอกถูกใจใครไปเสียหมดก็คงไม่ได้
แน่นอนว่า บริษัท เมืองไทยประกันภัย เข้าใจถึงความต้องการที่แตกต่างเป็นอย่างดีจึงได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชั้น 2+ โดยมีเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยที่แตกต่างกันถึงสามรูปแบบให้ทุกคนได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน ดังนี้
ผลิตภัณฑ์ เมืองไทย ขับดียกกำลัง 8 (เบี้ยประกันรถยนต์เริ่มต้นที่ 8,888 บาท)
เป็นประกันรถยนต์ชั้น 2+ สำหรับรถเก๋งเอเชียโดยเฉพาะ โดยให้เงื่อนไขความคุ้มครองดังต่อไปนี้
- รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของผู้โดยสารภายในรถเอาประกันภัย รวมถึงบุคคลภายนอก
- คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล ช่วยรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถคันที่เอาประกันภัย
- หลักทรัพย์ประกันตัวผู้ขับขี่ เมื่อได้รับการคุมตัวในคดีกฎหมายอาญา
- รับผิดชอบความเสียหายรถคันที่เอาประกันภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์โดยมีคู่กรณีเท่านั้น
- คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ จากไฟไหม้ น้ำท่วม หรือแม้กรณีที่รถสูญหาย
- ได้รับเงินชดเชยค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างนำรถเข้าซ่อม เมื่อได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุโดยที่ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายถูก
ผลิตภัณฑ์ เมืองไทย 2 + พลัส (เบี้ยประกันรถยนต์เริ่มต้นที่ 7,900 บาท)
เป็นประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ โดยมีเงินทุนประกันภัยและอัตราค่าเบี้ยประกันที่แตกต่างกันออกไป ทุนประกันภัยเริ่มต้นที่ 100,000 - 450,000 บาท และมีค่าเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 7,900 - 11,100 บาทโดยจะให้ความคุ้มครองในกรณีต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้โดยสารภายในรถเอาประกันภัย รวมถึงบุคคลภายนอก
- ได้รับการคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถคันที่เอาประกันภัย
- หลักทรัพย์ประกันตัวผู้ขับขี่ หากได้รับการคุมตัวในคดีกฎหมายอาญา
- รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถคันที่เอาประกันภัย โดยต้องเป็นการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ที่มีคู่กรณีเพียงเท่านั้น
- รับผิดชอบเมื่อรถได้รับความเสียหาย จากการเกิดไฟไหม้และการสูญหาย
- ความรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
การเลือกซื้อประกันรถยนต์แต่ละแบบ ยังมีรายละเอียดยิบย่อยอีกมากมาย ก่อนตัดสินใจซื้อเราควรศึกษาข้อมูลต่างๆ อย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นค่าเบี้ยประกัน วงเงินการคุ้มครองข้อยกเว้นต่างๆ รวมถึงเงื่อนกรมธรรม์ประกันภัยโดยละเอียด เพื่อจะได้ไม่ต้องพบกับปัญหาจุกจิกที่อาจตามมาในภายหลังได้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อสายด่วยบริษัท เมืองไทยประกันภัย 1484 หรือจะสอบถามรายละเอียดโดยตรงกับ rabbit finance เราก็ยินดีให้บริการครับ
ประโยชน์หลักของการซื้อประกันรถยนต์
คือ การเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ เพื่อจะได้รับบริการตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย ที่จะช่วยให้เราผ่านพ้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดไปได้ ไม่ว่าจะเป็น บริการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ความช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ ไปจนถึง การส่งเคลมประกัน นำรถเข้าซ่อมที่อู่หรือศูนย์บริการต่างๆ ถึงแม้ทั้งหมดนี้จะเป็นหน้าที่ของบริษัทประกันภัยที่ต้องรับผิดชอบ แต่เราในฐานะเจ้าของรถเอง ก็ควรมีความรู้เกี่ยวกับเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในกรณีต่างๆ เพื่อทุกขั้นตอนจะได้เป็นไปอย่างรวดเร็ว และไม่ต้องพบเจอปัญหาจุกจิกในภายหลังอีกด้วย
ค่าซ่อมรถเอาประกัน (กรณีสำรองจ่าย)
- ใบเคลม ที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่สำรวจภัย
- บันทึก เกี่ยวกับการตกลงราคาค่าซ่อม
- ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี
- สำเนาทะเบียนรถ
- ให้นำรถเข้ามาตรวจสภาพ แต่สำหรับบางกรณีที่ไม่สะดวกให้ใช้รูปภาพแสดง 3 ชั้นตอน ได้แก่ ก่อนซ่อม , ระหว่างซ่อม และ หลังซ่อม
- สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร
- สำเนาบัตรประชาชน
- กรณีที่เราได้นำเอกสารมาแสดงครบถ้วน และเนื้อหาข้างในเป็นไปตามความถูกต้อง จะได้รับเงินภายใน 15 วัน
ค่าเสียหายของรถคู่กรณีหรือค่าเสียหายของทรัพย์สินอื่นๆ
- ใบเคลม ที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่สำรวจภัย
- ใบเสนอราคาในการซ่อมรถหรือทรัพย์สินที่เสียหาย
- สำเนาะทะเบียนรถ หรือเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ของทรัพย์สินที่เสียหาย
- สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร
- สำเนาบัตรประชาชน
- หนังสือยืนยันมอบอำนาจ กรณีที่เจ้าของรถหรือทรัพย์สินไม่สามารถดำเนินการด้วยตัวเองได้
- กรณีที่ได้รับเอกสารครบถ้วนและค่าเสียหายเป็นที่ยุติ จะได้รับเงินภายใน 15 วัน
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลเอกสารที่จำเป็นในการเบิกสินไหมทดแทน จากเมืองไทยประกันภัยรถยนต์ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารหรือเรื่องอื่นๆ สามารถติดต่อสอบถามโดยตรงกับบริษัทเมืองไทยประกันภัย หรือ rabbit finance ได้เสมอครับ
ปัจจุบันช่องทางการเลือกซื้อประกันรถยนต์มีอยู่มากมาย ไม่ได้มีแค่เพียงการซื้อกับนายหน้าประกันภัยหรือติดต่อซื้อโดยตรงกับบริษัทประกันภัยเหมือนเมื่อก่อน จนบางทีผู้บริโภคอย่างเราๆก็อาจสับสนว่าจะเลือกทำประกันภัยผ่านช่องทางไหนดี? เราจึงต้องมองที่ความจำเป็นและกำหนดเกณฑ์ให้ชัดเจนเสียก่อนว่า
การเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่ดีจำเป็นต้องให้ความใส่ใจกับเรื่องใดบ้าง?
-
จำเป็นต้องใช้บริการกับโบรกเกอร์ประกันภัยที่น่าเชื่อถือ
เพราะกลุ่มคนที่ไม่หวังดีมีอยู่ทุกที่ในแวดวงประกันวินาศภัยเองก็เช่นกัน หากไม่ได้เลือกใช้บริการกับบริษัทประกันภัยโดยตรงแล้ว เราควรเลือกผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียง มีความน่าเชื่อถือและมีความเป็นมืออาชีพ
-
จำเป็นต้องได้รับสิ่งที่เหมาะสมและคุ้มค่า
เพราะผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์มีอยู่มากมายจากบริษัทประกันภัยที่มีชื่อเสียงกว่ากว่า 30 แห่ง การมีผู้ช่วยที่จะเปรียบเทียบประกันรถยนต์เพื่อให้เราได้รับในสิ่งที่เหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด จึงเป็นสิ่งสำคัญ
-
จำเป็นต้องมีความปลอดภัยในทุกขั้นตอน
ขั้นตอนการดำเนินการทุกอย่าง ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องเงินๆ ทองๆ และข้อมูลส่วนตัว การเลือกใช้บริการกับโบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์ที่ดีมีเว็บไซต์ที่พร้อมไปด้วยระบบรักษาความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ
-
จำเป็นต้องได้รับบริการที่ดี
งานประกันภัยถือเป็นงานบริการในแทบทุกขั้นตอน การได้ใช้บริการกับผู้ให้บริการที่มีความเป็นมืออาชีพ จะทำให้เราได้รับความพึงพอใจจากบริการที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจและของแถมสุดพิเศษอย่างแน่นอน
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณควรให้ความใส่ใจทุกครั้ง ที่ตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ และไม่ต้องกลัวว่าคุณจะหาผู้ให้บริการตามเงื่อนไขเหล่านี้ไม่ได้ เพราะ rabbit finance คือโบรกเกอร์ประกันภัยในเครือบริษัท BTS ที่มีความเชื่อถือได้ มีเครื่องหมายรับรองนายหน้าประกันวินาศภัยจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
แถมใช้ระบบรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลที่ได้การรับรองจาก Comodo ผู้ผลิตโปรแกรมรักษาความปลอดภัยชั้นนำอีกด้วย แีรบบิทไฟแนนซ์จึงเป็นตัวช่วยที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการ ในการเลือกซื้อประกันภัยของคุณได้อย่างแน่นอน